กระแสปีทองหุ้น IPO สถิติยังดี HL ปิดเกินราคาจอง 32.6%

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ของ บมจ.เฮลท์ลีด (HL) ธุรกิจโฮลดิ้ง (Holding Company) ที่ลงทุนใน 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจร้านขายค้าปลีกในรูปแบบ Chain Store ที่จำหน่ายทั้งยา เวชภัณฑ์ เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อุปกรณ์การแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ กับธุรกิจคิดค้น และพัฒนาร่วมกับทีมวิจัยภายนอก รวมทั้งว่าจ้างผู้ผลิต เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่สามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 72 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 9.80 บาท ได้ เพราะราคาหุ้นสามารถยืนเหนือจองได้ตลอดทั้งวัน

โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 15.50 บาท สูงกว่าราคาจอง 5.70 บาท หรือ 58.2% มีแรงซื้อดันราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 16 บาท ก่อนจะอ่อนตัวลงตามแรงขายที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ทั้งจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่เป็นใจ และการมีวันหยุดยาว กดให้ราคาหุ้นปรับลงเป็นลำดับ โดยปิดครึ่งวันแรกที่ 14.80 บาท และครึ่งวันหลังที่ 13 บาท เหนือจอง 3.20 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 32.6% 
 
ซึ่งทางผู้บริหาร HL, ที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น บมจ.หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ค่อนข้างพอใจกับกระแสตอบรับในการซื้อขายวันแรก โดยให้เหตุผลว่า ราคาหุ้นสอดรับกับปัจจัยพื้นฐานที่นักวิเคราะห์หลายสำนัก เช่น โนมูระ พัฒนสิน (CNS) เคจีไอ ประเทศไทย (KGI) ประเมินมูลค่าที่ 13-15 บาท เนื่องจากมองแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2564-2566 จะเติบโตเฉลี่ยราว 35-37% ตามความต้องการยา และอาหารเสริมที่เติบโตขึ้น หนุนด้วยการขยายสาขาเพิ่มทุกปี ปรับปรุงสาขาเดิม เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการมากขึ้น ควบคู่ไปกับการคิดค้น พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  

ทั้งนี้ ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HL ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า จะพยายามสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้ดีต่อเนื่อง เพราะเงินที่ได้จากการระดมทุน ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายสาขาได้ปีละ 4-5 แห่ง สามารถพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี และหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้คล่องตัวขึ้น ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต โดยมีความเป็นไปได้ด้วยว่า จะเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ จากการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับผลดำเนินงานของ HL ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561 – 2563) บริษัทฯ มีรายได้รวม (กำไรสุทธิ) อยู่ที่ 791.2 ล้านบาท (0.4 ล้านบาท), 915.5 ล้านบาท (21.8 ล้านบาท) และ 1,080.1 ล้านบาท (52.1 ล้านบาท) ตามลำดับ ขณะที่ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้ 912.7 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 57.5 ล้านบาท ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ในอัตรา 14.6 % และ 48.8% ตามลำดับ