328 จำนวนผู้เข้าชม |
นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บล. โกลเบล็ก จำกัด (GBX) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) บมจ.โนวา ออร์แกนิค (NV) เปิดเผยว่า พร้อมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน150 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 6.90 บาท จากราคาพาร์ 50 สตางค์ คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 11.07 เท่า ซึ่งเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 15 - 17 ธันวาคมศกนี้ เพื่อให้สามารถเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในเดือนนี้
“เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจในลักษณะใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น MEGA, DOD หรือ APCO ช่วงระยะเวลา 90 วัน นับจากวันที่ 22 กรกฎาคม ถึงวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา จะพบว่า ราคาหุ้นบริษัทเทียบเคียงเหล่านี้ซื้อขายที่ P/E เฉลี่ย 66.76 เท่า ซึ่งสูงกว่าราคาเสนอขาย IPO ถึง 6 เท่า จึงทำให้การตั้งราคาจองหุ้นที่ 6.90 บาท ถือว่าสมเหตุสมผล และสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกว่าสิบปี จนมีแบรนด์ของตัวเอง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้ผลิตสินค้าแบบ exclusive ต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และพร้อมจะยกระดับบริษัทฯ ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต” นายกิตติพันธ์ ชี้ประเด็น
นอกเหนือจาก GBX แล้ว ยังมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 6 ราย ได้แก่ บมจ.หลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส (FSS), บมจ.หลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป (CGS), บมจ.หลักทรัพย์ เคทีบี ประเทศไทย (KTBST), บมจ.หลักทรัพย์เคจีไอ (KGI), บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน (CNS) และ บมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี ประเทศไทย (RHBS)
สำหรับผลดำเนินงานย้อนหลังปี 2561- 63 NV มีรายได้รวม 331.6 ล้านบาท, 478.9 ล้านบาท และ 2,240 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 17.6 ล้านบาท, 75.6 ล้านบาท และ 780.8 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนงวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 74.2 ล้านบาท ลดลง 37.76% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 479.5 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 919.3 ล้านบาท ลดลง 27.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ซึ่งมีรายได้รวม 1,271.7 ล้านบาท
ซึ่งนายนวพล จันทร์จุฑามาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โนวา ออร์แกนิค (NV) ชี้แจงว่า การที่ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้หดตัวลง YoY เกิดจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากกระแสข่าวเชิงลบเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์ LIVNEST อีกทั้งถูกแรงกดดันจากประเด็นการโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพหรือสรรพคุณโดยไม่สมควร ฉุดให้ผลดำเนินงานโดยรวมหดตัวลง
"บทเรียนครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ หันมาปรับเปลี่ยนแนวทางการขายและการตลาด โดยไม่พึ่งพิงสินค้าตัวใดตัวหนึ่งเป็นหลัก แต่หันมาเน้นการทำการตลาดให้ครอบคลุมสินค้าหลากหลายมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวแทน จนปัจจุบัน บริษัทฯ มีแผนออกผลิตภัณฑ์ปีหนึ่งๆ ไม่น้อยกว่า 20 รายการ" ผู้บริหาร NV ให้ข้อมูล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NV ยังอธิบายเพิ่มเติมถึงวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ด้วยว่า หลักๆ จะนำมาใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงาน และลงทุนคลังสินค้าแห่งใหม่ ให้สอดรับกับการเติบโตในอนาคต สามารถเกาะกระแสไปกับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มักขยายตัวแบบก้าวกระโดด จึงทำให้บริษัทฯ ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันล่วงหน้า