340 จำนวนผู้เข้าชม |
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุน รวม 25 บริษัท (IAA Survey) เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนปี 2565 สรุปประเด็นได้ว่า เสียงส่วนใหญ่ 52% เชื่อว่าหุ้นไทยไตรมาสแรกจะแกว่งในลักษณะ sideway ไม่ต่างจากไตรมาสสุดท้ายปีก่อนมากนัก มีเพียง 36% ที่มีมุมมองเชิงบวก ที่เหลือ 12% มองเชิงลบ โดยประเมินค่าเฉลี่ยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ สิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 1,665 จุด ขณะที่ดัชนีสิ้นปี อยู่ที่ 1,760 จุด ใกล้เคียงกับคาดการณ์รอบก่อนที่ให้ไว้ 1,754 จุด
สำหรับจุดสูงสุดของดัชนีในรอบปี เสียงส่วนใหญ่ให้เป้าที่ 1,782 จุด เพราะผู้ตอบแบบสอบถาม 55.56% คาดว่า น่าจะเห็นดัชนีไต่ขึ้นไปเหนือระดับ 1,701– 1,800 จุด และอีก 27.78% เชื่อว่า ดัชนีอาจทะยานเหนือ 1,801–1,900 จุด ในทางกลับกัน มีการประเมินจุดต่ำสุดไว้ที่ 1,546 จุด
ซึ่งเมื่อตรวจสอบตัวสมมติฐานที่ใช้ในการประเมินดัชนี พบว่า นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่ จะคาดเศรษฐกิจไทยทั้งปีเติบโตเฉลี่ย 3.7% ส่วนสมมติฐานราคาน้ำมัน อยู่ที่บาร์เรลละ 69.90 เหรียญสหรัฐฯ ด้านแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศ เสียงเกือบ 80% ไม่เชื่อว่าจะมีการปรับดอกเบี้ยนโยบายแต่อย่างใด แต่ก็มี 12.5% ที่คาดว่า กนง. อาจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของตลาด ได้ค่าเฉลี่ยที่ 89.59 บาท ลดลงจากผลสำรวจครั้งก่อนซึ่งประเมินไว้ที่หุ้นละ 92.49 บาท (เพราะเสียงส่วนใหญ่ 76.19% คาดหมายไว้ที่ 90- 99.99 บาท และเสียงรองลงไป 14.29% ให้กรอบที่ 80–89.99 บาท ) ขณะที่อัตราการเติบโตของกำไรปีนี้ เทียบปีก่อน (EPS Growth) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 11.82% (สอดรับกับเสียงส่วนใหญ่ 71.43% ที่ให้กรอบระหว่าง 10-19.99%)
ขณะเดียวกัน เมื่อสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดพอร์ตการลงทุนปีนี้ พบว่า สามารถลงทุนหุ้นไทย หรือกองทุนหุ้นไทย 30% และแบ่งเงินในสัดส่วนใกล้เคียงกัน ลงทุนหุ้นต่างประเทศ สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก อาจให้น้ำหนักกองทุนอสังหา หรือ REIT, ทองคำ ในสัดส่วน 10-13% ตามลำดับ หรือจัดสรรไว้ในสินทรัพย์อื่นๆ เช่น Digital Currency หรือน้ำมัน ไม่เกินกว่า 2% ที่สำคัญ อย่าลืมถือเงินสด หรือเงินฝากระยะสั้น 10% ของพอร์ต ที่เหลือ 17% ลงทุนในตราสารหนี้
สำหรับ theme การลงทุนหุ้นปีนี้ ควรเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้น 4 กลุ่ม คือ ธุรกิจค้าปลีก ธนาคารอสังหาริมทรัพย์ และสื่อสาร และลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มธุรกิจการเกษตร ปิโตรเคมี การแพทย์ และการท่องเที่ยว