ASW พร้อมปั้นกำไร หลังปิดดีลซื้อกิจการ Maxxi Premier One พร้อมตั้ง JV ร่วมกลุ่มทุนญี่ปุ่น Takara

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า ปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทฯ พร้อมทำธุรกิจเชิงรุกอย่างเต็มตัว ผ่านการร่วมทุนกับบริษัทในเครือ ทาคาระ กรุ๊ป "ทาคาระ เลเบ็น (Takara Leben)" ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียง และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจยาวนานกว่า 50 ปี เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการ "แอทโมซ บางนา" ซึ่งเป็นคอนโดมีเนียมแนวตึกเตี้ย (Low-rise) ขนาดใหญ่บนทำเลศักยภาพย่านบางนา ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีเหลือง มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท ประเดิมเป็นโครงการแรก

ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้ นายคาซูอิชิ ชิมาดะ (Kazuichi Shimada) ซีอีโอ Takara Leben เปิดใจว่า มีความมั่นใจในตัวพันธมิตร ทั้งในเรื่องความเชี่ยวชาญในธุรกิจ การทำโครงการคุณภาพ และความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ แอสเซทไวส์ ยังมีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่ตรงกัน คือ ยึดมั่นในการออกแบบความสุขเพื่อการอยู่อาศัย จึงทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในรูปแบบบริษัทร่วมทุน (JV) โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 49% และ ASW ถือหุ้น 51%

ก่อนหน้านี้ ASW ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน (Maxxi Premier One) ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้บริษัทฯ จะได้โครงการคอนโดมิเนียมแนวตึกเตี้ย “แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา-สุทธิสาร” บนทำเลทอง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสาร 400 เมตร และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว ที่มีมูลค่าโครงการ 570 ล้านบาท เพิ่มเข้ามาในพอร์ตด้วย 

ซึ่งโครงการ “แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา-สุทธิสาร มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกปีนี้ ทำให้สามารถสร้างรายได้ให้ ASW ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ที่สำคัญ ยังได้อัตราผลตอบแทน (IRR)  สูงกว่าการพัฒนาโครงการเองจากที่ดินเปล่า

"การปิด 2 ดีลใหญ่ตั้งแต่ต้นปี ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ สำหรับก้าวใหม่ของบริษัทฯ และยังเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะช่วยผลักดันทั้งรายได้ และการเติบโตของธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างแข็งแกร่งอีกด้วย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าวทิ้งท้าย