SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนรอบใหม่ ในธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจรแห่งแรกของโลก

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทลูกของ SCBX เดินหน้าลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลกต่อเนื่อง ล่าสุด ได้ประกาศร่วมลงทุนอีกครั้งใน "Sygnum" ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของโลกที่ได้รับใบอนุญาตธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์ และใบอนุญาตบริการตลาดทุนในสิงคโปร์ ในการระดมทุนรอบ Series B ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนชั้นนำระดับโลก อย่าง Sun Hung Kai & Co. Limited (SEHK: 86) SBI Holdings, Meta Investments, Animoca Brands และ WeMade 

การระดมทุนครั้งนี้ ทำให้ Sygnum มีมูลค่าบริษัทหลังการลงทุน (Post-Money Valuation) สูงถึง 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็น รายได้ที่เติบโตกว่า 10 เท่า จำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงเกือบ 1,000 ราย หรือขนาดของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ ที่มากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นการระดมทุนครั้งสำคัญเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาบริการสินทรัพย์ดิจิทัล 

นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า SCB 10X ให้ความสนใจอย่างมากกับเทคโนโลยีการเงินแห่งโลกอนาคต ทั้ง Blockchain, Digital Asset และ DeFi เพราะเล็งเห็นว่า เทรนด์เหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคต โดยเฉพาะ DeFi ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จนมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา ซึ่งการระดมทุนรอบนี้ของ Sygnum มีเป้าหมายที่จะนำไปใช้ขยายการให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับ Web 3.0 อย่าง การให้บริการการลงทุน และ Staking ในเหรียญ DeFi กับนักลงทุนสถาบัน บริษัทฯ จึงพร้อมให้การสนับสนุนต่อเนื่อง (SCB 10X มีการลงทุนคร้้งแรกใน Sygnum เมื่อปี 2563) และเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนต่อเนื่องในการระดมทุนรอบ Series B เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของโลก ที่ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร และพร้อมขยายขอบเขตการให้บริการไปทั่วโลก

ขณะที่นายมาเทียส อิมบาค์ก (Mathias Imbach) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Group CEO ของ Sygnum กล่าวเสริมว่า การที่กระแสนิยมในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เมื่อนักลงทุนมีความต้องการลงทุนเพิ่มมากขึ้น บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องดูแลการลงทุนให้เกิดความปลอดภัยในทรัพย์สินของนักลงทุนมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก และมีเป้าหมายสำคัญเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและเชื่อถือได้