กลุ่มธนาคารยูโอบี ซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม

กลุ่มธนาคารยูโอบี (UOB) ได้ทำข้อตกลงซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป (Citi Group) ครอบคลุมทั้งสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อมีหลักประกัน ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจเงินฝากรายย่อย ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม รวมถึงพนักงานธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป ที่มีอยู่ประมาณ 5,000 คน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 4,915 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (คำนวณจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิรวมของธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป สิ้นงวดครึ่งแรกปี 2564 ที่ 4,000 ล้านเหรียญสิงคโปร์ บวกด้วยพรีเมียมอีกราว 915 ล้านเหรียญสิงคโปร์)

โดยกลุ่มธนาคารยูโอบีจะใช้ทุนส่วนเกินของธนาคารในการซื้อกิจการครั้งนี้ ซึ่งจะมีผลให้อัตราส่วนของเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Common Equity Tier 1 หรือ CET1) ของธนาคารลดลง 0.7% เป็น 12.8% (ตัวเลขล่าสุดงวดไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา) ซึ่งก็ยังคงอยู่ภายในข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล แต่เงินกองทุนขั้นที่ 1 นี้จะค่อยๆ ฟื้นคืนกลับขึ้นมาเกิน 13% ได้ภายในปี 2566 

นายวี อี เชียง รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี ชี้แจงว่า การเสนอซื้อกิจการครั้งนี้ นับเป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่มาถึงในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและขยายขอบเขตการทำธุรกิจของธนาคารยูโอบี ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวที่โดดเด่น และช่วยขับเคลื่อนให้ธนาคารก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาคได้เร็วขึ้นจากเป้าหมายที่วางไว้ 5 ปี เพราะจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) และผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ได้ทันที จากฐานลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป 2.4 ล้านราย ที่ทำให้ธนาคารมีฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 5.9 ล้านราย บวกด้วยฐานรายได้ของซิตี้กรุ๊ปอีกราว 500 ล้านเหรียญสิงคโปร์ คิดถึงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564

อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการในแต่ละประเทศจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศสิงคโปร์ด้วย แต่คาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ภายในกลางปี 2565 หรืออย่างช้าที่สุดช่วงต้นปี 2567 ซึ่งทางซิตี้กรุ๊ปจะทำงานร่วมกับกล่มธนาคารยูโอบีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การโอนย้ายธุรกิจลูกค้ารายย่อย ทั้งในส่วนของลูกค้า และพนักงาน เป็นไปอย่างราบรื่น

ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารยูโอบีพร้อมให้การต้อนรับลูกค้าและพนักงานของซิตี้กรุ๊ป เพื่อมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจระยะยาว ซึ่งคาดว่า จะมีความคืบหน้าจากการซื้อกิจการเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้