CGH ตั้งบริษัทย่อย พาย เวนเจอร์ส เพื่อลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล และเมตาเวิร์ส คาดเริ่มลงทุนไตรมาสแรกนี้ทันที

หลังจากปีที่ผ่านมา บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) ประกาศเข้าลงทุนในกลุ่มบริษัทคริปโตมายด์ (ในสัดส่วน 25%) ซึ่งประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาและลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำระดับประเทศ ที่ได้รับใบอนุญาตที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Advisory) และได้ใบอนุญาตเป็นผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Fund Management) จากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นรายแรกของประเทศ 

ล่าสุด บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อ พาย เวนเจอร์ส (PI VENTURES) ด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท เพื่อแสวงหาการลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โครงการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และโครงการเกี่ยวกับเมตาเวิร์สทั่วโลก คาดว่าจะจัดตั้งบริษัทและทำการลงทุนภายในไตรมาสนี้                                                 

นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGH ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงสู่โลกยุคดิจิทัลที่รวดเร็วขึ้น ตลอดจนพัฒนา และเพิ่มช่องทางการให้บริการด้านการลงทุนให้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ได้ตรงความต้องการของนักลงทุนที่เปลี่ยนไป บริษัทฯ จึงดำเนินการจัดตั้ง PI VENTURES ขึ้นมา เพื่อประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital - VC) เต็มรูปแบบ ซึ่งมั่นใจว่า PI VENTURES จะสามารถต่อยอดธุรกิจ และเสริมความเข้มแข็งให้กับกลุ่มบริษัทได้อย่างมั่นคง โดยขณะนี้กำลังพิจารณารายละเอียดในการลงทุนหลายโครงการ

การรุกคืบเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และเมตาเวิร์ส ที่เด่นชัดของ CGH มีผลให้ราคาหุ้นทะยานตัวถึง 75% นับตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดทำการวันแรกของปี 2565 ที่ 1.32 บาท โดยคึกคักมากเมื่อมีแรงเก็งกำไรโถมเข้ามาในหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์อย่างเนืองแน่นตลอดสัปดาห์ที่สองของเดือน เมื่อเริ่มมีการคาดหมายว่า อาจเห็นธุรกิจหลักทรัพย์ขยายขอบเขตการทำธุรกิจสู่สินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติม จนทำให้ราคาหุ้น CGH กลับขึ้นไปยืนใกล้ๆ ราคาเมื่อ 7 ปีก่อน ที่ 2.32 บาท ก่อนจะโดนแรงขายทำกำไรปลายตลาดวันศุกร์ที่ 14 มกราคม กดราคาหุ้นให้ปรับลดลงมาปิดที่ 2 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 51.5%