PEACE ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่ได้หุ้นจอง เพราะราคายืนเหนือจองทั้่งวัน

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บมจ. พีซแอนด์ลีฟวิ่ง (PEACE) ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 84 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.98 บาท เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองตลอดวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 5.50 บาท สูงกว่าราคาจอง 1.52 บาท ก็มีแรงซื้อหนุนราคาหุ้นไต่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 6.15 บาท ก่อนเจอแรงขายทำกำไรกดราคาหุ้นให้อ่อนตัวลง แต่ก็ไม่หลุด 5.20 บาท เพราะมีแรงซื้อหนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะๆ ดันราคาหุ้นให้ไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 5.60 บาท ปรับขึ้น 1.62 บาท หรือสูงกว่าจอง 40.7% 

ซึ่งนายประสพศักดิ์ ศิริโสภณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PEACE มั่นใจว่า การนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้เพื่อซื้อที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตตามแผนงานที่วางไว้ ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชิงรุกมากขึ้น เมื่อประกอบกับอัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัทที่อยู่ในระดับต่ำ จะช่วยให้บริษัทมีโอกาสในการสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ PEACE มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างขาย 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 4,700 ล้านบาท และมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ช่วง 2 ปีนี้ทั้งสิ้น 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่าราว 3,000 ล้านบาท  

ซึ่งเคทีบี ประเทศไทย (KTBST) ให้ความเห็นว่า การที่ PEACE มีจุดเด่นจากฐานะการเงินที่ แข็งแกร่ง โดยในไตรมาส 3 มีหนี้สิ้นที่ต่ำเพียง 0.1 เท่า และต่ำกว่ากลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ที่ 0.93 เท่า จะทำให้ PEACE มีความสามารถในการกู้ยืมเงินได้ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท ทำให้มีความพร้อมที่จะเติบโตสูงในอนาคต โดยประเมินกำไรปีนี้ ที่ 230 ล้านบาท (+22% YoY) และปีหน้า ที่ 280 ล้านบาท (+22% YoY) คิดเป็นราคาเหมาะสมที่ 5.00 บาท อิง PER ที่ 9 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่อยู่อาศัย

ที่สำคัญ หากบริษัทฯ เปิดโครงการใหม่ได้มากกว่าแผนที่วางไว้ จะทำให้ราคาหุ้นมี upside เพิ่มเติมได้