ZIGA Hot จริง ทั้งกำไร New-High และ story การลงทุนขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี หนุนให้มีรายใหญ่เข้าลงทุน 4 คน

บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) ประกาศผลดำเนินงานปีที่ผ่านมา โชว์กำไรสุทธิ 204.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.49% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 117.7 ล้านบาท เนื่องจาก ยอดขายเหล็กโครงสร้าง และท่อร้อยสายไฟ ประเภท Pre-Zinc เพิ่มขึ้นตามแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มจาก 65,000 ตัน เป็น 110,000 ตัน รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ตลอดจนการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าสู่ระบบออนไลน์ และการทำระบบ Franchise “ZIGA FC” ได้ผลตอบรับที่ดีมาก อีกทั้งธุรกิจใหม่ โรงเรือนเพาะปลูกกัญชา-กัญชง สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น หนุนให้รายได้จากการขายเพิ่มขี้น 17.3% YoY เป็น 1,141.3 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตก้าวกระโดดได้ในทุกมิติ ทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ โดยนายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZIGA เชื่อว่า จะเป็นปีแห่งการทรานสฟอร์มจากธุรกิจเหล็ก ไปเป็นธุรกิจเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ผ่าน “ซิก้า เอฟซี” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยฯ ที่ล่าสุดมีการสั่งซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์เพิ่ม 200 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 100 ล้านบาท จากที่มีเครื่องขุดอยู่แล้ว 200 เครื่อง โดยได้สั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้  ซึ่งหากการเป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากเครื่องขุดทั้งหมด 400 เครื่อง ได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ทันที

"จากที่ลงทุนเครื่องขุดเหมืองบิตคอยน์ชุดแรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จำนวน 100 เครื่อง ตอนนี้สามารถสร้างรายได้แล้วกว่า 6 แสนบาท และมีน่าจะมีสัญญาณที่สดใสในปีนี้ จากการมีเครื่องขุดเพิ่ม ช่วยผลักดันให้รายได้และกำไรเติบโตมากขึ้นด้วย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZIGA เผย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมในด้านแหล่งเงินทุนรองรับการรุกขยายธุรกิจใหม่ เนื่องจากได้ขออนุมัติวงเงินในการออกหุ้นกู้ล่วงหน้าไว้แล้ว 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งทยอยขายหุ้นกู้เป็นชุดๆ ในมูลค่าที่ไม่สูง ตามวงเงินที่จำเป็นต้องการใช้ในแต่ละโครงการ

ผลกำไรที่สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และแผนลงทุนธุรกิจใหม่ ขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี  ทำให้มีนักลงทุนรายใหญ่ 4 คน เข้ามาถือหุ้นใน ZIGA ในสัดส่วนรวม17.6% ประกอบด้วย นายสมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์ ถือหุ้น 75.69 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.35%, นายสมศักดิ์ เหล่าสุจริตกุล ถือหุ้น 15.34 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.50% นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ถือหุ้น 11 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.80% และนายณัฐพล ทรงสายชลชัย ถือหุ้น 6 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.98% 

อย่างไรก็ตาม โครงสร้างผู้ถือหุ้นเดิม ทั้งครอบครัวงามจิตรเจริญ ครอบครัวตรีมุทธาพงศ์ และบริษัท ดีงาม โฮลดิ้ง ยังคงรักษาสัดส่วนการถือหุ้น 44.23% ซึ่งเป็นสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่สูงสุดตามเดิมต่อไป

ขณะเดียวกัน ราคาหุ้น ZIGA ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (14 - 18 ก.พ.) ก็ทะยานเป็นเท่าตัว โดยราคาพุ่งชนซีลลิ่ง ถึง 4  ceiling แตะราคาสูงสุดในรอบปีที่ 24.60 บาท ก่อนมีแรงขายทำกำไรในวันศุกร์ กดราคาปิดให้อ่อนตัวลงมายืนบริเวณ 18.50 บาท