564 จำนวนผู้เข้าชม |
เพราะการขุดบิตคอยน์ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาลถึง 110 เทราวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งทางตรงและทางอ้อม ประกอบกับนโยบายการไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนการแก้ไขวิกฤตสภาพอากาศ (Net Zero) จึงทำให้ บมจ. ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) เล็งเห็นโอกาสในการลงทุน จากการใช้พลังงานหมุนเวียนส่วนเกิน ทั้งในโครงการของกลุ่มบริษัทฯ และพันธมิตรที่จะร่วมกันทำธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำกว่า
โดยแผนใหม่นี้ ถูกมอบหมายให้บริษัท ชัยวัฒนา กรีน แมนเนจเม้นท์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CWT ดำเนินการขอเพิ่มวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการนำกำลังการผลิตส่วนเกินที่เหลืออยู่ของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมาใช้เป็นพลังงานในการขุดบิทคอยน์ ซึ่งคาดว่า จะเห็นความคืบหน้าของโครงการภายในปีนี้
ทั้งนี้ นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ CWT มั่นใจว่า การขยายการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล จะช่วยสร้าง New S Curve ให้กับบริษัทฯ และเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
ข่าวดังกล่าว ทำให้มีแรงเก็งกำไรกระจายตัวเข้ามาในหุ้น CWT อย่างคึกคัก ในวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนราคาหุ้นวิ่งจากราคาปิดวันก่อนหน้า ที่ 3.20 บาท ขึ้นมาชนเพดานสูงสุด (Ceiling) ที่ 4.16 บาท ก่อนทะยานทำจุดสูงสุดในรอบปี ที่ 5.20 บาท ในวันอังคารต่อมา แต๋ก็ถูกขายทำกำไรช่วงใกล้ๆ เที่ยงเรื่อยมา กดราคาหุ้นมาปิดที่ 4.12 บาท