GUNKUL มั่นใจ ธุรกิจเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% แย้มปีนี้ มีแผนนำบริษัทย่อยงาน EPC เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

บมจ. กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) รายงานกำไรไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา 508 ล้านบาท ลดลง 70% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) เนื่องจากไม่มีกำไรจากการขายสินทรัพย์เหมือนปีก่อนหน้า และลดลง 2% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากยอดขายไฟฟ้าที่ลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 2564 ลดลง 31.43% YoY มาอยู่ที่  2,229.27 ล้านบาท ตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะกำไรปกติ ไม่มีรายการจำหน่ายเงินลงทุน ที่ทำได้ 2,251.5 ล้านบาท ถือได้ว่าธุรกิจเติบโต 90% YoY ดังนั้น บริษัทฯ พร้อมจ่ายปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลัง ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งหากนับรวมเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกที่จ่ายไปแล้วในอัตรา 0.06 บาท GUNKUL จ่ายเงินปันผลรวมทั้งปี หุ้นละ 0.18 บาท

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปีนี้ ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GUNKUL เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ พร้อมเร่งผลักดันการเติบโตในทุกธุรกิจ โดยธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งคิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตในมือรวมทั้งสิ้น 642 เมกะวัตต์ (MW) ตั้งอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 700 MW ก่อนเพิ่มกำลังการผลิตแตะระดับ 1,000 MW ภายในปีหน้า   

ส่วนธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบด้านวิศวกรรม (EPC) ที่มีสัดส่วนรายได้ 21.4% ของรายได้รวม ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 4,500 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า แต่บริษัทฯ พร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ซึ่งจะมีการเปิดประมูลมูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท โดยคาดว่า น่าจะได้รับงานประมาณ 7-10% ของมูลค่างานทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีแผนจะนำบริษัทย่อย คือ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) และถือหุ้นใน บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปีนี้

ขณะที่ธุรกิจกัญชง-กัญชา การเพาะปลูกและโรงสกัด ยังดำเนินการได้ตามแผน ซึ่งประมาณต้นเดือนเมษายนนี้ บริษัทเตรียมเปิดคลินิกแพทย์แผนไทยเพื่อให้บริการลูกค้า และจำหน่ายผลิตภัณ์กัญชง กัญชาปลายน้ำ ครบวงจร ณ อาคาร Pearl Bangkok ชั้น 2 

ขณะเดียวกัน กลุ่ม GUNKUL ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจโดยร่วมมือกับ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ บริษัท ออริจิ้น กันกุล เอ็นเนอร์ยี จำกัด เพื่อร่วมกันดำเนินกิจการพลังงานทดแทน และพลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัยให้กับ บมจ.บริทาเนีย (BRI) โดยในเฟสแรกจะเริ่มติดตั้งโซลาร์รูฟ และนำร่องสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าระยะยาว หรือ Private PPA (Power Purchase Agreement) กับพื้นที่ส่วนกลางโครงการ แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์-พระราม 5 และโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12

สำหรับความร่วมมือกับ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และ บมจ. ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนทำธุรกิจ Solar Rooftop – สถานีชาร์จรถไฟฟ้า - กัญชง กัญชาเพื่อสุขภาพ - จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่น จะช่วยผสมผสานมิติเชิงพาณิชย์เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเดิมได้มากขึ้น

เช่นเดียวกับ ธุรกิจโกดังไฟฟ้าดอทคอม ตลาดออนไลน์ของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและโซลาร์ ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง GUNKUL SPECTRUM หน่วยนวัตกรรมธุรกิจพลังงานของบริษัทฯ กับ เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ภายใต้แนวคิด Add Energy To Cart ที่เปิดตัวมาได้ 6 เดือน  สามารถสร้างยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจ และคาดว่าจะเป็นช่องทางจำหน่ายที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

ทั้งนี้ กลุ่ม GUNKUL เล็งเห็นการเติบโต และการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต จึงวางงบลงทุน 3 ปีนี้ (2565-2567) ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 7,000-8,000 แบ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อซื้อโรงไฟฟ้าขนาด 400-500 MW ลงทุนในธุรกิจกัญชง 2,000 ล้านบาท ที่เหลือประมาณ 3,000 ล้านบาท ใช้ลงทุนในธุรกิจงานก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้า (Built-to-Suit) จำนวน 10 แห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเติบโตของกลุ่มบริษัท โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 20%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GUNKUL ทิ้งท้ายด้วยว่า การที่กลุ่มบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการ Transform องค์กรมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการปรับกระบวนการทำงาน การบริหารจัดการธุรกิจ พร้อมทั้งคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า สามารถจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้