SUPER ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตแตะ 1,900 MW ดันกำไรโต 30-35% สร้าง New-High รอบใหม่
534 จำนวนผู้เข้าชม |
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยผลดำเนินงานงวดปีที่ผ่านมา ว่า บริษัทฯ มีการเติบโตทั้งรายได้และกำไรเติบโตเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรสุทธิ 2,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79 % จากปีก่อนหน้า (YoY) ส่วนรายได้อยู่ที่ 8,530.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.9% YoY
ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าในพอร์ตที่มีกำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 1,586.3 เมกะวัตต์ (MW) แบ่งเป็น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ และในเวียดนาม กำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 MW ที่รับรู้เต็มปี, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบนบก ที่เวียดนาม กำลังการผลิตติดตั้ง 50 MW ที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีทีผ่านมา รวมถีง โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ SEE6 ที่จังหวัดพิจิตร เริ่มรับรู้รายได้เต็มปี และมีโครงการต่างๆ ของกลุ่มบริษัทช่วยสนับสนุน
โอกาสนี่ บริษัทฯ พร้อมจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดบัญชีปีก่อน ในอัตราหุ้นละ 0.006 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 5 พฤษภาคม ก่อนจ่ายเงินในวันที่ 20 พฤษภาคม
สำหรับปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 30-35% จากปีก่อน เพราะมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตรวมแตะ 1,900–2,000 MW ผ่านโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม โครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการขยายงานสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid ที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าผสมผสานเชื้อเพลิง ระหว่างโซลาร์ฟาร์ม 49 MW ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ขนาด 136 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) กับไบโอแก๊ส อีก 1 MW คาดว่าจะพร้อมเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ปลายปีนี้ ด้วยสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กำลังการผลิต 16 MW ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังว่า โครงการนี้จะเป็นโรงไฟฟ้าไฮบริดแห่งแรกที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในประเทศ ภายใต้การบริหารของบริษัทย่อย ซุปเปอร์ โซล่าร์ ไฮบริด
นอกจากนี้ SUPER ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ ในภูมิภาคอาเซียน รวมไปถึงการแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน
