MC ตั้งเป้ากำไรงวดครึ่งปีหลังโต 10% หลังปั้นกำไรขั้นต้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 64% โบรกมองปันผลจูงใจ 6-7%

นายปิยะ โอฬารริกสุภัค ประธานเจ้าหน้าที่ด้านบัญชีและการเงิน บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยแนวโน้มผลดำเนินงานงวดครึ่งหลังปี 2565 (เริ่มต้นเดือนมกราคม สิ้นสุดเดือนมิถุนายนปีนี้) ว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยคาดว่ากำไรสุทธิทั้งปีจะะเติบโตอย่างน้อย 10% ขณะที่ยอดขายน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 3,248.8 ล้านบาท

สำหรับแผนดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งหลัง บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าตามกลยุทธ์หลักที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขา Mc Outlet ภายในสถานีบริการน้ำมันของ บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR ) ให้ครบ 70 สาขา โดยจะเปิดเพิ่มอีก 11 สาขา จากครึ่งแรกที่เปิดไปแล้ว  59 สาขา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 45-50 ล้านบาท หรือหรือการขยายสาขารูปแบบอื่นๆ ให้ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์มแบบออฟไลน์และออนไลน์

ทั้งนี้ Mc Outlet จะยังเป็นช่องทางการขายหลัก เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรให้สูงขึ้นได้ จากการประหยัดจากขนาด (Economy of scale) โดยคาดว่ายอดขายจาก Mc outlet จะมีสัดส่วนเพิ่มจาก 8% เป็น 10% ของยอดขายรวม ซึ่งบริษัทฯ วางเป้าหมายจะขยายให้ครบ 100 สาขาในอนาคต กระจายในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

ที่สำคัญ บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับ "แบรนด์" มากกว่าการใช้ "โปรโมชั่น" ลดราคา โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการปรับลดต้นทุนต่างๆ เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้ยืนระดับสูงต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จจากงวดไตรมาส 2 (เดือนตุลาคม ถึงธันวาคมปีที่แล้ว) ที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 65% ทำสถิติ All Time High

ประธานเจ้าหน้าที่ด้านบัญชีและการเงิน MC ยังทิ้งท้ายด้วยว่า การที่บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือกว่า 1,997 ล้านบาท และไม่มีหนี้สิน (Cash Rich-Zero debt) ทำให้พร้อมมองหาโอกาสทางการลงทุนใหม่ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนธุรกิจหลัก หรือขยายธุรกิจในโลกดิจิทัลในอนาคต อย่าง NFT Marketplace เพราะ MC เอง ทำในเรื่องของแฟชั่นอยู่แล้ว และที่ผ่านมา ได้มีการจับมือกับ Class Cafe พัฒนาเมตาเวิร์สภายใต้ชื่อ "เวลาเวิร์ส” (Velaverse) ซึ่งในอนาคต อาจเห็น Jeans Street in Metaverse ด้วย

สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์ ให้ความสนใจ MC ในฐานะหุ้นปันผล มากกว่า upside จากราคาหุ้น เพราะมี Cash Rich-Zero debt การันตีความสามารถในการจ่ายปันผลงวดบัญชีปีนี้ (งบเหลื่อมปี) ในระดับ 6-7% 

ค่ายโนมูระ พัฒนสิน (CNS) ประเมินกำไรทั้งปีที่ 520 ล้านบาท เติบโต 17% YoY เพราะเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะยังสามารถคงอัตราการทำกำไรในระดับสูงต่อไปได้ จากการมีสัดส่วนสินค้า non-denim ที่มากขึ้น และลดการจัดโปรโมชั่นที่รุนแรงเกินไป ขณะที่บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยก็เริ่มดีขึ้น หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย สังเกตได้จากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) พลิกกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม ก่อนจะเติบโต 15% ในเดือนมกราคม

สำหรับแผนเปิด Mc Outlet 70 สาขา ในปั้มน้ำมัน ปตท. แม้จะเป็นการ rebrand ร้าน mc 55 สาขา และเปิดใหม่แค่ 15 สาขา แต่คาดว่าจะเป็นตัวผลักดันยอดขาย offline ได้ จึงแนะ “ซื้อ” เพราะมีโอกาสได้ทั้ง Gain จากราคาหุ้น และเงินปันผลระดับสูง 6% โดยให้มูลค่าพื้นฐานกลางปีนี้ ที่ 11.80 บาท เมื่อใช้ PER ที่ 18 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี

ด้านทิสโก้ (TSC) และหยวนต้า (YUANTA) มองคล้ายๆ กัน โดยให้ราคาเหมาะสมสิ้นปีการเงินของ MC ที่ 11.00 บาท เพราะชอบจุดเด่นด้านความสามารถทำกำไรที่โดดเด่น วัดจาก GPM ที่ปรับดีขึ้นภายใต้ภาวะที่กดดัน ขณะที่ SSSG เดือนมกราคม พลิกกลับมาเป็นบวกระดับ 2 digit  ทำให้คาด งบไตรมาส 3 มีโอกาสเป็นบวกต่อเนื่องได้ ยิ่งบริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง เป็น Net Cash ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า จะจ่ายปันผลในอัตราสูงระดับ 6-7% โดยจ่ายระหว่างกาล สำหรับงวดครึ่งแรก คิดเป็นผลตอบแทน 3.3%