ฺฺBBGI เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 10.50 บาท ก่อนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 17 มี.ค.นี้

826 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฺฺBBGI เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 10.50 บาท ก่อนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 17 มี.ค.นี้

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ (KTZ) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) บริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และกลุ่มน้ำตาลขอนแก่น (KSL) ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศไทย และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง (HVP) ที่ส่งเสริมสุขภาพด้วยนวัตกรรมสีเขียว เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เปิดเผยว่า พร้อมเปิดเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 433.20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10.50 บาท ที่ราคาพาร์ 2.50 บาท แบ่งเป็น 2 ระลอก 

โดยระลอกแรก จะจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นของ BCP และ KSL เฉพาะกลุ่มตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights) ในสัดส่วนไม่เกิน 4.5% และ 7.5% ของหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมด ตามลำดับ กำหนดใช้สิทธิจองซื้อระหว่างวันที่ 3-4 และ 7 มีนาคม ก่อนเปิดให้ประชาชนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน จองซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ 22.5% เป็นระลอกที่สอง ตั้งแต่วันที่ 9-11 มีนาคม ผ่านบริษัทฯ รวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเทศไทย (CGS-CIMB), บมจ.หลักทรัพย์ พาย (PI), บมจ.หลักทรัพย์ ไอร่า (AIRA), บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ ประเทศไทย (KGI) บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประเทศไทย (DBSV), บมจ.หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ประเทศไทย (MST) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส (ASPS) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

โอกาสนี้ ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTZ ชี้แจงถึงการตั้งราคาขายว่า กำหนดจากผลสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับผลดำเนินงานของ BBPI ช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ไตรมาสแรกถึงไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา) ที่ 960.18 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 1,446,000,000  หุ้น คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) หุ้นละ 0.66 บาท คิดเป็น P/E ประมาณ 16.11 เท่า 

ทั้งนี้ คาดว่า หุ้น BBGI จะสามารถทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มพลังงาน ในวันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคมที่จะถึงนี้ 

ขณะที่นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) บอกว่า บริษัทฯ ทำธุรกิจในรูปแบบ Holding Company เพื่อเข้าลงทุนในบริษัทต่างๆ ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ อย่างเอทานอล และไบโอดีเซล จนสามารถก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศไทย และต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มี มูลค่าสูงอย่างหลากหลาย เช่น เอนไซม์, คอลลาเจน, เวย์โปรตีนจากนม, โปรตีนจากไข่ ตลอดจนผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือก

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน หลักๆ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจ และลงทุนธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (HVP) ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ (Health and Well-Being Products) ของกลุ่มบริษัทฯ และชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน รวมถึงหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งจะผลักดันให้ BBGI มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะเติบโตอย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต

ส่วนผลดำเนินงานของ BBGI ย้อนหลังจากปี 2561 – 2563 มีกำไรสุทธิเติบโตเป็นเท่าตัวตลอด โดยมีกำไรสุทธิ 152 ล้านบาท 387 ล้านบาท และ 845 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่งวด 9 เดือนปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 903 ล้านบาท เติบโต 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY)

ขณะที่มุมมองนักวิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐาน ประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานได้ที่ 15  บาท โดยมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 15.35 บาท 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้