575 จำนวนผู้เข้าชม |
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เจดีฟู้ด (JDF) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ต้นไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ JDF ทำธุรกิจพัฒนาและผลิตสูตรอาหารตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ซึ่งมีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงอาหาร และกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว ประเภทผักผลไม้อบกรอบ แบบครบวงจร ไล่ตั้งแต่การวิจัยไปจนถึงการบรรจุสินค้าให้ลูกค้ามายาวนานกว่า 30 ปี คิดเป็นจำนวนการพัฒนาสูตรมากกว่า 2,000 เมนู
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ได้แก่ โอเค (OK), กินดี (Kindee), Crispconut และ GOOD EATS เพื่อขยายช่องทางหารายได้ ควบคู๋ไปกับช่วยกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ
หากเปรียบเทียบกับหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่แล้ว อย่าง RBF, NFR หรือ XO ว่าที่น้องใหม่รายนี้ จะมีความแตกต่างและคนละรูปแบบกันกับบริษัทอื่นๆ เพราะเป็นเครื่องปรุงรสอาหาร ที่มีจุดเด่นด้านน้ำหนักน้อย ส่งผลให้มีต้นทุนด้านโลจิสติกส์น้อย ทำให้มั่นใจได้ว่า JDF จะเป็นอีกทางเลือกสำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร
สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนจะนำไปใช้ขยายธุรกิจเป็นหลัก ทั้งการตั้งสำนักงาน และหน่วยวิจัยในต่างประเทศ พุ่งเป้าไปที่ภูมิภาคอินโดจีน, ประเทศจีนตอนใต้ และอินเดีย อีกทั้งยังจะนำเงินบางส่วนมาใช้ลงทุนงานวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง ทั้งในส่วนของกลุ่มแป้งชุบทอดสำเร็จรูป (Balter Mix) และอาหารเพื่อสุขภาพ (Protein Snack) ตลอดจนนำมาลงทุนระบบเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มกำลังการผลิต ส่วนที่เหลือ จะนำไปใช้ชำระเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ซึ่งนางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JDF ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มี 2 ประเภท ได้แก่ สินค้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) และสินค้ารับจ้างผลิต (OEM) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 92.9% และ 7.1% ตามลำดับ เมื่อใช้ฐานข้อมูลงวด 9 เดือนปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อจำแนกโครงสร้างรายได้ตามฐานลูกค้าหลัก จะพบว่า 76.6% มาจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรม อีก 10.6% มาจากผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่เหลือ 5.6% มาจากลูกค้าทั่วไป คิดเป็นสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศ และส่งออก 92.8% และ 7.2% ตามลำดับ
สำหรับการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งนี้ บริษัทฯ ต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน และขีดความสามารถขยายธุรกิจ เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องปรุงรสอาหาร ที่มีงานวิจัยและพัฒนาเป็นหัวใจสำคัญ โดยปีนี้ บริืษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 25% จากปีก่อน เพราะเชื่อมั่นว่า ลูกค้าเก่าจะกลับมาหลังจากได้รับผลกระทบจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดมาตลอด 2 ปี ประกอบกับบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นำเสนอลูกค้าเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน มีการวางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าใหม่ ควบคู่กันไป
ขณะที่ธุรกิจกัญชง-กัญชา ได้มีการติดต่อกับผู้ผลิตต้นน้ำที่ปลูกและผลิตไว้แล้ว เพื่อนำมาต่อยอดพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ไว้รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าไว้ล่วงหน้าแล้ว เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มมะพร้าวอบกรอบ ที่พร้อมรุกตลาดกลุ่มประเทศที่มีกำลังซื้อ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการลงทุนสร้างโรงงานใหม่ บนพื้นที่ 33 ไร่ ที่จังหวัดสมุทรสาคร ในปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องปรุงรสอาหารได้มากขึ้น 75%
ทั้งนี้ ผลดำเนินงานงวด 9 เดือนปีก่อน JDF มีรายได้รวม 420.95 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 26.60 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้น 29.0%