WORLD ยื่นคำขอกลับเข้ามาซื้อขายในตลาด mai อีกครั้ง หลังทีมผู้บริหารชุดใหม่ มั่นใจ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์
401 จำนวนผู้เข้าชม |
ทั้งนี้ รศ.ดร.จิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บมจ.เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (WORLD) ให้เหตุผลว่า ทางทีมผู้บริหารชุดใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งทำงานร่วมกันมาเป็นระยะเวลา 6 ปี ตั้งแต่เริ่มมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 มีความมุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นธุรกิจของบริษัทฯ ให้กลับมาเข้มแข็ง และมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ทั้งฐานะทางการเงินกลับมามีกำไรย้อนหลัง 3 ปีต่อเนื่อง และมีส่วนผู้ถือหุ้น (ภายหลังปรับปรุงความเห็นผู้สอบบัญชี) เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งถึงวันนี้ มีความเชื่อมั่นว่า เข้าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงอยากเห็นตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติให้สามารถกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ mai ได้ตามปกติอีกครั้ง
โดยส่วนของผู้ถือหุ้น 2 รอบบัญชีล่าสุด คือ ปี 2563 และปี 2564 บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 1,851.22 ล้านบาท และ 1,888.56 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผลดำเนินงานต้องมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติ ที่เกิดจากธุรกิจหลัก (ภายใต้การจัดการของผู้บริหารส่วนใหญ่กลุ่มเดียวกันอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 1 ปี) ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอนั้น บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง โดยในปี 2562 มีกำไรสุทธิ 57.22 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิ 33.80 ล้านบาท และปี 2564 กำไรสุทธิ 37.34 ล้านบาท
ซึ่งหากพิจารณาเจาะจงไปที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ เฉพาะส่วนของบริษัทฯ จะอยู่ที่ 13.27 ล้านบาท มีสาเหตุจากบริษัทฯ สามารถทำรายได้รวมได้ถึง 1,299.57 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งจำนวน 1,241.53 ล้านบาท
ทั้งนี้ WORLD ในวันนี้ ทำธุรกิจทางด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สามารถแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบของที่ดินเปล่า บ้าน วิลล่า คอนโดมิเนียม โรงแรม เพื่อจำหน่ายและให้เช่า รวมถึงการให้บริการในการบริหารนิติบุคคลหรือที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย
ส่วนกลุ่มที่สอง จะเป็นโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในรูปแบบของที่ดินเปล่า โกดังสินค้า โรงงาน อาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ เพื่อจำหน่าย และให้เช่า รวมถึงการให้บริการด้านสาธารณูปโภค พลังงาน ที่เกี่ยวข้องกับนิคมอุตสาหกรรม
สำหรับกลุ่มที่สาม จะเน้นด้านรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มที่สี่ จะเป็นธุรกิจโรงพยาบาลและบริการด้านสุขภาพ จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ แต่ยังไม่ก่อให้เกิดรายได้
