PTTEP ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 12,000 ล้านบาท

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัท ปตท.สผ. ศูนย์บริหารเงิน ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ได้เสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มี ปตท.สผ. เป็นผู้ค้ำประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ผ่าน บมจ. ธนาคารกรุงเทพ (BBL) บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB) บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ได้ผลลัพธ์ว่า มียอดจองซื้อในช่วงเวลาที่เปิดให้นักลงทุนแสดงความจำนงซื้อสูงกว่ามูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายถึง 2 เท่า ดังนั้น ปตท.สผ. จึงตัดสินใจเพิ่มหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe option) อีก 2,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน จนในที่สุด สามารถปิดยอดการเสนอขายหุ้นกู้ เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 12,000 ล้านบาท

สำหรับเงินที่ได้การระดมทุนครั้งนี้ ปตท.สผ. จะนำไปใช้ชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานในธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต

"แม้ว่า ปตท.สผ. จะเว้นจากการเสนอขายหุ้นกู้แก่นักลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่นานกว่า 3 ปี แต่กระแสตอบรับอย่างท่วมท้นที่มีการต่อเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี" นายมนตรี กล่าวด้วยรอยยิ้ม   

ที่สำคัญ PTTEP ได้นำเอาระบบสำรวจความต้องการซื้อตราสารหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bookbuilding) ที่พัฒนาโดยสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) มาใช้ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อเป็นตัวช่วยให้สามารถพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถแจ้งผลการจัดสรรไปยังผู้ลงทุนได้อย่างอัตโนมัติ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน และการประมวลผลข้อมูลสำหรับธุรกรรมในตลาดการเงินไทย

ทั้งนี้ หุ้นกู้ที่เสนอขายรอบนี้ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ หุ้นกู้อายุ 5 ปี, อายุ 7 ปี และอายุ 10 ปี ให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ ในอัตราปีละ 2.09%, 2.69% และ 3.05% ตามลำดับ โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ในระดับ “AAA” ซึ่งถือเป็นอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุด