บลจ.ทิสโก้ นำเสนอการลงทุนแบบใหม่ แร่หายากที่มึมูลค่ามหาศาล TRAREEARTH เปิดขาย IPO 23 มี.ค.- 7 เม.ย. นี้

709 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บลจ.ทิสโก้ นำเสนอการลงทุนแบบใหม่ แร่หายากที่มึมูลค่ามหาศาล TRAREEARTH เปิดขาย IPO 23 มี.ค.- 7 เม.ย. นี้

เพื่อสร้างโอกาสหาผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าและมีความยั่งยืน ในจังหวะเวลาที่บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกมีความผันผวน บลจ. ทิสโก้ (TISCOASSET) จึงนำเสนอทางเลือกในการลงทุนสินทรัพย์ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว แตกต่างจากสินทรัพย์อื่นๆ อย่าง Rare Earth ซึ่งเป็นกลุ่มธาตุโลหะหายาก 17 ชนิด ​ที่ไม่ได้เอามาผลิตโดยตรง แต่ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน เช่น โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ทีวีจอแบน เทคโนโลยีพลังงานสีเขียว รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า การใช้งานทางการทหารที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตัวนำยวดยิ่ง (Superconductors) และระบบสื่อสารใยแก้วนำแสง โดยเตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิด ทิสโก้ Rare Earth & Strategic Metals (TRAREEARTH) ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 7 เมษายนนี้ โดยมีเงื่อนไขการลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท  

ทั้งนี้ กองทุน TRAREEARTH จะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต การขุดเหมืองแร่ การถลุงและรีไซเคิลแร่หายาก (Rare Earth) และแร่โลหะที่มีความจำเป็นต่อกระบวนการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Strategic Metals) ครอบคลุมถึงบริษัทที่ได้รับประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ ตลอดจนบริษัทอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับ Rare Earth หรือ Strategic Metals โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAVs) ของกองทุนรวม

นอกจากนี้ กองทุนอาจกระจายการลงทุนทั่วโลก หรือเน้นลงทุนเฉพาะประเทศ หรือภูมิภาค และอาจเน้นลงทุนในบางหมวดอุตสาหกรรม ในบางช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ

อย่างไรก็ดี มีการตีกรอบการลงทุนผ่านกองทุนรวม หรืออีทีเอฟ ว่าต้องมีอย่างน้อย 2 กองทุน กองทุนละไม่เกิน 79% ของ NAVs ซึ่งในเบื้องต้น กองทุนมีการลงทุนในหน่วยลงทุนเกิน 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจำนวน  2 กองทุน คือ 1) กองทุน Global X Lithium & Battery Tech ETF โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง อย่าง Solactive Global Lithium ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลดำเนินงานของบริษัททั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมลิเทียม ได้แก่ การขุดเหมืองลิเทียม และการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม ไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAVs ซึ่งกองทุนดังกล่าว สามารถสร้างผลตอบแทนในรอบปีที่ผ่านมาได้ 16.5% ขณะที่ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี และ 5 ปี อยู่ที่ 40.6% และ 26.0% ตามลำดับ

และ 2) กองทุน VanEck Rare Earth / Strategic Metals ETF โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง อย่าง MVIS Global Rare Earth/Strategic Metals ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลดำเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต การถลุงและรีไซเคิล Rare Earth หรือ Strategic Metals ไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAVs ซึ่งกองทุนนี้ สามารถสร้างผลตอบแทนในรอบปีที่ผ่านมาได้ 42.3% ขณะที่ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี และ 5 ปี อยู่ที่ 35.7% และ 17.7% ตามลำดับ

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้