1079 จำนวนผู้เข้าชม |
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า การที่กระแสตอบรับของผู้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ ในการแลกหุ้นจาก "SCB" เป็น “SCBX” สูงถึง 99% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 90% สะท้อนให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นมีความเชื่อมั่นต่อการปรับโครงสร้างธุรกิจ และแผนยุทธศาสตร์ครั้งนี้ ตรงกับที่ฝ่ายจัดการมั่นใจว่า กระบวนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการเติบโตของธุรกิจภายใต้กลุ่ม “เอสซีบี เอกซ์” ในหลายด้าน
โดย SCBX จะมีบทบาทเป็น "ยานแม่" นำพากลุ่มฯ ให้มีขีดความสามารถในการสร้างมูลค่าจากธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรมการเงินเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีขนาดที่มีนัยยะสำคัญ รวมทั้งเพิ่มความชัดเจนในการทำธุรกิจของกลุ่มฯ ให้สามารถขยายและพัฒนาธุรกิจใหม่ที่มีอนาคตได้อย่างเต็มที่ มีการแบ่งแยกการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของกลุ่มฯ โดยรวม และจะนำไปสู่โอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX ที่จะขึ้นเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มฯ รวมถึงธุรกิจใหม่ในอนาคตในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตและมีศักยภาพสูง
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ คือ การนำหุ้น “SCBX” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้น “SCBX” ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ และจะเพิกถอนหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ออกจากตลาดหลักทรัพย์ โดยหุ้น “SCBX” จะยังคงใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ "SCB” เช่นเดิม โดยหุ้น SCBX น่าจะพร้อมกลับเข้ามาซื้อขายได้ตามปกติ ในวันที่ 27 เมษายนที่จะถึงนี้
ก่อนหน้านี้ SCB ได้มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารเพื่อรองรับการเป็น “ยานแม่” ของกลุ่ม SCBX ไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยมีการแต่งตั้ง "นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย" ดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Private Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เป็นแม่ทัพนำทีมสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าบุคคลที่มีความมั่งคั่งระดับสูงในประเทศไทย โดย Private Banking จะรับหน้าที่บริหารสินทรัพย์เพื่อการลงทุนมูลค่า 50 ล้านบาทขึ้นไป (High Net Worth Individuals) ขณะที่ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ รับบริหารสินทรัพย์ตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป (Ultra High Net Worth Individuals)
นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้ง "ดร.ยรรยง ไทยเจริญ" เป็นรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ควบตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale ที่ดูแลทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคลที่มีความมั่งคั่งระดับสูง และกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่คนใหม่ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการให้คำปรึกษาด้านบริหารความมั่งคั่ง (Advisory Capability) ยกระดับทีมที่ปรึกษาการเงินให้มีศักยภาพอย่างมืออาชีพ พร้อมพัฒนาคลังสมองด้านเทคโนโลยีการวางแผนการเงินอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจ Wealth เมืองไทย โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี AUM แตะ 2 ล้านล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังมีการแต่งตั้ง ดร. สมประวิณ มันประเสริฐ ขึ้นดำรงตำแหน่ง รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลยุทธ์ ของธนาคารไทยพาณิชย์ในการสร้างงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคเชิงลึก และงานวิเคราะห์ผลกระทบในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในกลุ่ม รวมถึงลูกค้า และสังคม
และเมื่อถึงวันที่ 1 สิงหาคม จะมีการเปลี่ยนตัวประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จากนายอาทิตย์ เป็นนายกฤษณ์ จันทโนทก เพื่อนำพากลุ่มไทยพาณิชย์สร้างมูลค่าจากธุรกิจใหม่ ให้มีขนาดที่มีนัยยะสำคัญ รวมถึงสร้างฐานลูกค้าในระบบให้ได้ 200 ล้านคน พร้อมทั้งนำพาธุรกิจของกลุ่มฯ ออกสู่ต่างประเทศ เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เพื่อยกระดับองค์กรสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาค ที่สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภค และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้อย่างทัดเทียมและทันท่วงที ตามเป้าหมายที่วางไว้