BBLAM จับจังหวะหุ้นผันผวนทั่วโลก เปิดขาย IPO กองทุนหุ้นเทคโนโลยี และหุ้นเอเชีย ชนิดเพื่อการออม (SSF) 21-27 เม.ย.นี้

1103 จำนวนผู้เข้าชม  | 

BBLAM จับจังหวะหุ้นผันผวนทั่วโลก เปิดขาย IPO กองทุนหุ้นเทคโนโลยี และหุ้นเอเชีย ชนิดเพื่อการออม (SSF) 21-27 เม.ย.นี้


สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ และการเร่งตัวของเงินเฟ้อ ที่สร้างแรงกดดันต่อการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไปควบคู่กันไป ทำให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกมีความผันผวนมากขึ้น ดังนั้น เพื่อบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยเหล่านี้ ทำไห้ บลจ. บัวหลวง (BBLAM) เล็งเห็นโอกาสการลงทุนที่เปิดกว้างจากการจับจังหวะเวลาที่สถานการณ์การลงทุนไม่สดใส เลือกลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและตลาดหุ้นเอเชีย เพื่อหวังผลผลตอบแทนระยะยาว เพราะเชื่อมั่นว่า ทั้ง 2 Theme ลงทุน ถือเป็นเมกะเทรนด์ที่คุ้มค่าสำหรับการลงทุนระยะยาว

และเพื่อเพิ่มแต้มต่อในการลงทุนจากการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมเข้ามา BBLAM จึงออกแบบกองทุนที่จะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) รวดเดียว 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี เพื่อการออม (B-INNOTECHSSF) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการออม (B-ASIASSF) ระหว่างวันที่ 21-27 เมษายนนี้  

โดย B-INNOTECHSSF จะลงทุนผ่านกองทุน B-INNOTECH เพียงกองทุนเดียว เพราะกองทุน B-INNOTECH มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ (Feeder Fund) ที่เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการแข่งขัน และปรับราคาขึ้นได้ ทำให้ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัด ขณะเดียวกัน ยังขยายโอกาสการลงทุนออกไปในบริษัทเทคโนโลยีขนาดกลางและเล็ก ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง แต่มีมูลค่าน่าสนใจ ซึ่งเทคโนโลยีที่กองทุนต่างประเทศให้น้ำหนักลงทุนช่วงนี้ คือ คลาวด์ และเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) อย่าง Microsoft ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก, Samsung Electronics ผู้ผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สัญชาติเกาหลีใต้ หรือ VISA ผู้ให้บริการการชำระเงิน

ส่วน B-ASIASSF จะลงทุนในกองทุน B-ASIA เพียงกองทุนเดียว เพราะ B-ASIA มีการลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น โดยลงทุนได้หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งหุ้นเอเชียน่าสนใจ เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าหุ้นยังไม่แพง และบางประเทศก็มีมูลค่าหุ้นน่าสนใจมาก เช่น จีน อินโดนีเซีย และไทย เนื่องจากเป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับตัวอย่างหุ้นที่มีการลงทุนแล้ว ประกอบด้วย TSMC ผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์, Tencent Holdings บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน, Ming Yang Smart Energy Group ผู้ผลิตกังหันลมที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน, CNOOC บริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีน และ Bank Negara Indonesia Persero Tbk ธนาคารรัฐอินโดนีเซีย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้