974 จำนวนผู้เข้าชม |
เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนแบบมีเป้าหมาย ผ่านการลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฏจักรที่เคลื่อนไหวตามแนวโน้มเศรษฐกิจ และได้ประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ หรือการลงทุนในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยใช้กลยุทธ์การบริหารแบบยืดหยุ่น มีการกระจายการลงทุนแบบกําหนดธีมการลงทุน บลจ. กรุงไทย (KTAM) เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิด เคแทม โกลบอล เนกซ์เทรนด์ ทริกเกอร์ฟันด์ 2 (KTGNEXT2) ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน – 6 พฤษภาคมนี้ โดยมีเงื่อนไขการลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
ทั้งนี้ กองทุน KTGNEXT2 มีลักษณะเป็น Trigger Fund ที่พร้อมยกเลิกกองทุน เมื่อผ่านระยะเวลาการลงทุน 7 เดือน หรือเมื่อมูลค่าของหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าหน่วยละ 10.7222 บาท เป็นเวลา 2 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป คิดเป็นผลตอบแทนราว 6%
สำหรับนโยบายการลงทุน กองทุนนี้จะลงทุนทั้งในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก ครอบคลุมหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ (หน่วย CIS) กองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAVs) ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การลงทุน และสภาวะการลงทุนในแต่ละขณะ
ขณะเดียวกัน กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ทั้งเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) และเพื่อการลงทุนด้วย
ในเบื้องต้น กองทุนคาดว่า อาจมีการลงทุนเกินกว่า 20% ของ NAVs ใน 3 กองทุน กองทุนแรก คือ กองทุน The Energy Select Sector SPDR Fund (XLE) ที่มีนโยบายการลงทุนมุ่งหาผลตอบแทนก่อนหักค่าใช้จ่าย ให้ใกล้เคียงดัชนี Energy Select Sector Index ซึ่งดัชนีดังกล่าวสะท้อนผลดําเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพของหลักทรัพย์ในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานของ S&P 500 Index ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจประเภท Oil, Gas และ consumable fuel, Energy equipment และ services
สำหรับกองทุนที่สอง คือ กองทุน VanEck Agribusiness ETF (MOO) ที่ต้องการสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าใช้จ่าย ให้ใกล้เคียงดัชนี MVIS Global Agribusiness Index (MVMOOTR) ซึ่งดัชนีดังกล่าวสะท้อนผลดําเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพของหลักทรัพย์ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ agri-chemicals, animal health and fertilizers, seeds and traits, from farm / irrigation equipment and farm machinery, trading of agricultural products, aquaculture and fishing, livestock or cultivation and plantations (including grain, oil palms, sugar cane, tobacco leafs, grapevines)
และกองทุนสุดท้าย คือ กองทุน iShares MSCI ACWI ETF (ACWI) เป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น NASDAQ ภายใต้การบริหารและจัดการโดย BlackRock Fund Advisors ที่มีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงผลตอบแทนของดัชนี MSCI ACWI ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลตอบแทนของหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงและปานกลาง (large and mid-capitalization) ของประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) และประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)