CEYE ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่ได้หุ้นจอง ให้ผลตอบแทนเกิน 35% สวนภาพตลาดที่ไม่สดใส

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บมจ.ตาชำนิ (CEYE) ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.86 บาท เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองตลอดวัน 

โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 6.50 บาท สูงกว่าราคาจอง 2.64 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 68.4% มีแรงซื้อหนุนเข้ามาเรื่อยๆ ดันราคาขึ้นไปเป็นลำดับ กระทั่งแตะจุดสูงสุดที่  7.80 บาท จึงเริ่มเผชิญแรงขายทำกำไรกดราคาหุ้นให้ปรับลงเป็นลำดับ แต่ยังคงยืนเหนือราคาเปิดได้ โดยปิดครึ่งวันที่  6.90 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดทำการภาคบ่าย กลับมีแรงขายกระจายตัวออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย (ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการมีวันหยุดยาว และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากความกังวลเรื่องการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน ที่เกิดจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในการประชุมสัปดาห์หน้า) กดราคาหุ้นรูดตัวลงทำจุดต่ำสุด ที่ 5.25 บาท ก่อนมีแรงซื้อทำราคาปิดที่ 5.35 บาท สูงเกินราคาจอง 1.49 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 38.6% และยังสูงเกินราคาเหมาะสมที่ทางผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นให้ไว้ที่ 4.50 บาท อีกด้วย

ไม่ว่าราคาหุ้นจะเป็นเช่นไร แต่นางสาวสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ CEYE ยังคงยืนยันภาพธุรกิจปีนี้ว่า จะสามารถผลักดันรายได้ปีนี้ให้เติบโตจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 20% กลับไปเหมือนช่วงก่อนเกิดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดใน 2-3 ปีก่อนได้ จากปัจจัยหนุนของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค รถยนต์ไฟฟ้า ประกอบกับบริษัทฯ เตรียมขยายธุรกิจใหม่ๆ ในรูปแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นโครงการลงทุนในบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาด (Creative Agency) เพื่อขยายบริการไปยังธุรกิจต้นน้ำ โครงการลงทุนในบริษัท โพสต์ โปรดักชั่น สำหรับผลิตวีดีโอ ภาพยนตร์ และซีรีส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างมาก และเป็นตลาดใหม่ของบริษัทฯ หรือโครงการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจสื่อออนไลน์ รวมถึงโครงการลงทุนสตาร์ทอัพและสร้างทีมนวัตกรรม เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่รวบรวมการให้บริการ และสร้าง Ecosystem ของกลุ่มครีเอทีฟคอนเทนต์ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่า จะหาข้อสรุปได้ภายในกลางปีนี้ โดยอาศัยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จำนวน 170.25 ล้านบาท