RATCH ลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้านวนครอีก 30 MW ทันที หลังโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช ระยอง เริ่มขายไฟฟ้าให้ กฟผ.แล้ว  

นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนในประเทศ นอกจากโครงการพลังงานทดแทนแล้ว บริษัทฯ ให้ความสนใจโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer: SPP) ประเภทโคเจนเนอเรชั่น ซึ่งมีความคุ้มค่าในการลงทุนสูง เพราะสามารถเสริมสร้างรายได้ เพิ่มมูลค่ากิจการ และยังเป็นการเตรียมพร้อมรองรับโอกาสเติบโตในอนาคต เนื่องจากภาคการผลิตไฟฟ้ามีแนวโน้มจะเปลี่ยนผ่านไปสู่โมเดลการผลิตเพื่อใช้เอง (Independent Power Supply: IPS) และผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อไฟฟ้าได้ด้วยตนเอง

โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากพอร์ตการลงทุนโรงไฟฟ้า SPP เป็นจำนวน 2,938 ล้านบาท คิดเป็น 7% ของรายได้รวม แบ่งเป็นรายได้จากโรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น โรงไฟฟ้านวนคร โรงไฟฟ้าราชบุรีเวอล์ดโคเจนเนอเรชั่น โรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น และโรงไฟฟ้าสหโคเจนชลบุรี

สำหรับปีนี้ บริษัทฯ คาดว่า รายได้จากพอร์ตโรงไฟฟ้า SPP จะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา จากการรับรู้รายได้ใน 3 โครงการใหม่ ได้แก่ โรงไฟฟ้าสหโคเจน ส่วนต่อขยายของโรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น และโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง ซึ่งเพิ่งเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้ กฟผ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จำนวน 90 MW เป็นระยะเวลา 25 ปี

อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการเดินเครื่องขยายกำลังการผลิตในโรงไฟฟ้านวนคร จากที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 185 เมกะวัตต์ (MW) และไอน้ำรวม 40 ตันต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้นเป็น 125 MW และไอน้ำ 45 ตันต่อชั่วโมง โดยกำลังการผลิตไฟฟ้า 90 MW จำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่เหลือจำหน่ายให้ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้านวนคร มุ่งมั่นที่จะผลิตไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ในการผลิตไฟฟ้า มีระบบบริหารจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001 ทั้งยังได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 3: ระบบสีเขียว (Green System) จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมด้วย เพื่อให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์ในการลดก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ และของประเทศไทยด้วย โดย RATCH ร่วมลงทุนกับ บมจ. นวนคร (NNCL) และ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ในสัดส่วนการถือหุ้น 40% ขณะที่อีก 2 บริษัทฯ ถือหุ้นฝ่ายละ 30% เท่ากัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมทุนกับกลุ่มนวนคร เดินหน้าพัฒนาโครงการ IPS กำลังการผลิต 31.2 MW ในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม จ. นครราชสีมา อีกด้วย

ปัจจุบัน RATCH มีพอร์ตลงทุนโรงไฟฟ้าประเภท SPP รวม 7 โครงการ หากรวมการลงทุนครั้งนี้แล้ว จะทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 536.97 MW โดย 481.3 MW มีการเดินเครื่องจำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว