1583 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจาก บมจ. ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ประกาศผลดำเนินงานไตรมาสแรก มีกำไร 73 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) เติบโตทั้งรายไตรมาส (QoQ) และรายปี (YoY) ในอัตรา 49% และ 12% ตามลำดับ โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่รายได้จากการบริหารหนี้เสียปรับตัวดีขึ้น 14% QoQ และ 26% YoY ตามฐานลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อปรับเพิ่มขึ้นถึง 97% QoQ และ 430% YoY ตามพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวขึ้นมาก เฉพาะไตรมาสแรกปีนี้ สินเชื่อยังเติบโตอีก 14% QoQ อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีกำไรจากการขาย NPA อีก 16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% QoQ
อย่างไรก็ตาม รายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สินยังปรับตัวลง 9% QoQ และ 33% YoY เพราะยังได้รับผลกระทบจากนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงิน ทำให้ปริมาณหนี้ที่รับติดตามลดลง
กระนั้น ปัจจัยหนุนจากการที่รายได้จากการบริหารหนี้เสีย และการปล่อยสินเชื่อขยายตัวโดดเด่น กลับสามารถชดเชยปัจจัยลบจากการที่รายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สินปรับตัวลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ฯ หลายค่ายเชื่อมั่นว่า จะเห็น CHAYO เติบโตทำ All-time-high ได้อีก ในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปี
หยวนต้า (YUANTA) ชี้ประเด็นว่า แนวโน้มผลดำเนินงานของ CHAYO น่าจะเร่งตัวขึ้นได้อีกในไตรมาส 2 และ 3 จากการรับรู้รายได้จากการบริหารหนี้เสียที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ตามขนาดของพอร์ตหนี้ที่เพิ่มขึ้น หนุนด้วยการที่เศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัว ทำให้ลูกหนี้ในพอร์ตมีแนวโน้มจะเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีแผนเข้าประมูลหนี้ด้อยคุณภาพล๊อตใหม่เพิ่มต่อเนื่องจากปลายปีก่อน ด้วยงบลงทุนราว 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นประมูลเอง 1,500 ล้านบาท และผ่านบริษัทร่วมทุน (JV) อีก 1,500 ล้านบาท ขยายฐานลูกหนี้สร้างการรับรู้รายได้ในระยะกลางถึงยาว
ขณะเดียวกัน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อขนาดใหญ่ที่มีหลักประกัน และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน ที่ดำเนินการผ่านบริษัท ชโย แคปปิตอล คาดจะเห็นการเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถขายทรัพย์ NPL แปลงใหญ่มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ผ่านกรมบังคับคดีได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างการรอผู้ซื้อชำระหนี้ โดยมีกำหนดชำระเงินภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาด จะมีการบันทึกเป็นกำไรจากการขายทรัพย์ราว 300 ล้านบาท
ค่ายสีฟ้ารายนี้ คาด CHAYO จะมีกำไรสุทธิปีนี้ ที่ 531 ล้านบาท เติบโตอย่างโดดเด่น กว่า 142.5% YoY และยังได้ประโยชน์จากแนวโน้มการเปิดประมูล NPLs ของธนาคาร และ Non-Bank ที่จะเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ จนยกให้เป็นหุ้นที่กำไรโตเด่นสุดในกลุ่มบริหารหนี้ (AMC) ปีนี้ ขณะที่ระยะกลางยาว บริษัทฯ ยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก ทั้งจากการเข้าประมูลหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหม่ๆ และการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) กับธนาคารพันธมิตร บริหารหนี้ ซึ่งคาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้
สำหรับความน่าสนใจ ค่ายนี้แนะนำ "ซื้อ” เพราะราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวจนมี upside จากมูลค่าพื้นฐานปีนี้ที่ 17.50 บาท เกิน 35% อิงวิธี GGM
ทรีนี้ตี้ (TNITY) มองคล้ายกันว่า ผลดำเนินงานทั้งปีของ CHAYO มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น จากยอดจัดเก็บรายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สินที่ส่อแววปรับตัวดีขึ้น รับการเปิดเมือง ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันกำไร เพราะคาดสินเชื่อทั้งปีจะเติบโตสูงถึง 800 ล้านบาท หรือเติบโต 236% YoY ส่วนบริษัทบริหารหนี้เสียในรูปแบบการร่วมทุน CHAYO-JV (CHAYO ถือหุ้น 55% กับพันธมิตร อย่าง COM7, JWD, PREB) ได้มีการซื้อหนี้ล๊อตใหม่เข้ามาแล้ว 200 ล้านบาท น่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปีนี้ด้วยเช่นกัน ขณะที่บริษัทบริหารหนี้ด้อยคุณภาพในรูปแบบการร่วมทุนกับสถาบันการเงิน เชื่อว่า จะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ในเบื้องต้น ค่ายสีแดงรายนี้ ประเมินรายได้และกำไรทั้งปีของ CHAYO ไว้ที่ 1,279 ล้านบาท และ 540 ล้านบาท พร้อมกับให้ราคาเหมาะสมที่ 17.70 บาท อิง P/BV ที่ 4.25 เท่า และแนะนำ “ซื้อ”
อย่างไรก็ตาม ค่ายนี้ได้ทิ้งท้ายด้วยว่า อาจมีการปรับราคาเหมาะสมในอนาคต เพราะกังวลกับปัจจัยเสี่ยงเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนอาจส่งผลกระทบต่อสมมติฐาน Rf ในการประเมินราคาเหมาะสม ถึงแม้จะยังคงประมาณการกำไรตามเดิม
ส่วนกสิกรไทย (KS) บอกว่า การที่กำไรไตรมาสแรกทำสถิติสูงสุดเป็นไปตามที่คาดไว้ และเชื่อว่าจะเห็นกำไรทำสถิติสูงสุดอีกครั้งในไตรมาส 2 หรือ 3 เพราะคาดว่า CHAYO จะรับรู้กำไรราว 200-220 ล้านบาท จากการขายที่ดินขนาดใหญ่ในจังหวัดพังงา โดยข้อตกลงจะเสร็จสิ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ ดังนั้น จึงคาดว่า บริษัทฯ จะรับรู้กำไรจำนวนมากจากธุรกรรมนี้ เพื่อรองรับกำไรในไตรมาส 2 หรือ 3
นอกจากกำไรจากการขาย NPA แล้ว คาดว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น การลงทุนใน NPLs ที่สูงขึ้น และกำไรจาก CHAYO-JV จะช่วยหนุนกำไรตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
ค่ายสีเขียวรายนี้ ยังคงยกให้ CHAYO เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม AMC เพราะมีความยืดหยุ่นในการจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน และการเป็นผู้รับประโยชน์สูงสุดจากโมเดล JV กับธนาคาร เนื่องจากธุรกิจของ CHAYO มีขนาดเล็กกว่าเมื่อเทียบกับ BAM และ JMT คงคำแนะนำ "ซื้อ”
อย่างไรก็ตาม ค่ายนี้กลับให้ราคาเหมาะสมต่ำที่สุด เพียง 14.80 บาท เพราะประเมินกำไรปกติทั้งปีอยู่ที่ 362 ล้านบาท ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ค่ายอื่นๆ
ขณะที่ราคาเหมาะสมเฉลี่ยที่โบรกเกอร์ค่ายต่างๆ มีการจัดทำบทวิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐานของ CHAYO ล่าสุด อยู่ที่ 17.40 บาท