WFX พร้อมเร่งขยายกำลังผลิตรองรับอุตสาหกรรมสิ่งทอฟื้นจากพิษโควิด หนุนผลงานไตรมาส 2 โตต่อ หลังติดโผดัชนี FTSE Micro Cap

1168 จำนวนผู้เข้าชม  | 

WFX พร้อมเร่งขยายกำลังผลิตรองรับอุตสาหกรรมสิ่งทอฟื้นจากพิษโควิด หนุนผลงานไตรมาส 2 โตต่อ หลังติดโผดัชนี FTSE Micro Cap

นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดชั้นนำระดับโลก กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 ว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าบุกตลาดอย่างเต็มที่ เน้นไปที่กลุ่มลูกค้า End Users ในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ โดยตรง เหมือนที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพราะประเมินว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมสิ่งทอจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดช่วง  2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากแต่ละประเทศทยอยเปิดประเทศมากขึ้น ขึ้น ผลักดันให้ความต้องการยางยืดสำหรับสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม จะมีมากขึ้น ยิ่งบริษัทฯ มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของเส้นด้ายยางยืดเคลือบแป้ง และเคลือบซิลิโคน สามารถรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในแต่ละ segment ได้ดีขึ้น ส่งผลให้ยอดขายน่าจะเติบโตต่อเนื่อง และมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากการประหยัดจากขนาด (Economy of scale) ทำให้ต้นทุนลดลง

"คาดว่าแผนขยายกำลังการผลิตเส้นด้ายยางยืด จะทำได้เร็วกว่าแผนที่วางไว้ โดยในเฟสแรก ที่กำหนดแล้วเสร็จในช่วงครึ่งแรกปีนี้ ถึงวันนี้คืบหน้าเกือบ 100% แล้ว ทำให้น่าจะแล้วเสร็จก่อนกำหนดการเดิม ส่วนเฟสที่สองจะเร่งให้แล้วเสร็จในช่วงปลายปี ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมจากทั้ง 2 เฟส เพิ่มขึ้น 20-30% จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ทำได้ปีละ 40,080 ตัน สามารถรองรับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง” กรรมการผู้จัดการ WFX ชี้แจง

สำหรับสถานการณ์ล็อกดาวน์ในจีน มีผลกระทบจำกัด เพราะบริษัทฯ ยังรักษายอดขายได้เป็นอย่างดี  จากการปรับกลยุทธ์ด้วยการเน้นการกระจายทีมตัวแทนขายให้อยู่ในทุกหัวเมืองที่สำคัญ ช่วยให้สามารถเข้าถึงความต้องการได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีความพร้อมทั้งในเรื่องการตรวจสอบสต็อกสินค้า สามารถหมุนเวียนได้ตลอดเวลา และการปรับแผนในการขนส่งเพื่อให้สามารถส่งสินค้าได้ทันท่วงที    

นอกจากจะเน้นกลยุทธ์การเจาะตลาดเพิ่มแล้ว บริษัทฯ พร้อมพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผลิตสินค้าชนิดใหม่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อม หลังจากได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าบ้างแล้ว 

เขาทิ้งท้ายว่า กลยุทธ์ต่างๆ ที่วางเอาไว้ข้างต้น จะช่วยให้แนวโน้มผลดำเนินงานปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% จากปีก่อน ตามเป้าหมายที่วางไว้ เฉพาะไตรมาสแรก WFX มีรายได้รวม 1,143.48 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 111.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.89% และ 177.19 % จากไตรมาสแรกปีก่อน (YoY)

ล่าสุด WFX ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในดัชนี FTSE Micro Cap ซึ่งเป็นดัชนีที่นักลงทุนสถาบัน และต่างชาติใช้อ้างอิงสำหรับการให้น้ำหนั กในการลงทุน มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนที่จะถึงนี้  


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้