1399 จำนวนผู้เข้าชม |
DOHOME : กำไรไตรมาสแรกเป็นไปตามคาด
กำไรไตรมาสแรก อยู่ที่ 460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.5% QoQ จากการเติบโตของยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง 15.4% YoY จาก GPM ที่ลดลง
ยอดขายไตรมาสแรก อยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท (+36%YoY /+12.5%QoQ) จากความต้องการก่อสร้างที่แข็งแกร่งในต่างจังหวัด และราคาเหล็กที่สูงขึ้น ขณะที่ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ +25.1%
SSSG ในเดือนเมษายน อยู่ที่ราว +15-17% จากฐานที่สูงขึ้นในไตรมาส 2 ปีก่อน เมื่อ SSSG อยู่ที่ 23.6% ขณะที่ GPM ขยายตัวขึ้นจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ค่าใช้จ่าย SG&A จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2 เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาใหม่ ทำให้คาดว่า กำไรไตรมาส 2 จะลดลงต่อเนื่อง YoY แต่ปรับตัวดีขึ้น QoQ จาก GPM ที่คาดว่าจะขยายตัวขึ้น ส่วนทั้งปี น่าจะเห็นการเติบโตในระดับ 10% คิดเป็นราคาเป้าหมายที่ 24.50 บาท
GLOBAL : กำไรไตรมาสแรก ทำสถิติสูงสุดใหม่ ดีกว่าคาด
กำไรสุทธิไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 พันล้านบาท (+20% YoY และ 55% QoQ) ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัย และตลาดคาดไว้ 11% และ 13% ตามลำดับ
SSSG ไตรมาสแรก อยู่ในเชิงบวกที่ 7.4% (เทียบกับที่ 15% ในไตรมาส 4 ปีก่อน) และ GPM สูงขึ้น 60bps ทั้ง YoY และ QoQ มาอยู่ที่ 23.5%
SSSG ของ GLOBAL ในเดือนเมษายนเป็นบวกที่ 1-5% ประเมิน GPM ไตรมาส 2 จะดีขึ้น QoQ จากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น และการส่งต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังลูกค้า ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside สูงราว 18% จากราคาพื้นฐาน และราคาหุ้นปัจจุบันยังมีโมเมนตัมเชิงบวกอีก ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565-67 ขึ้น 4.4-4.7% เพื่อสะท้อน GPM ที่ดีกว่าคาดในไตรมาสแรก พร้อมกับปรับปีฐานราคาเป้าหมายเป็นกลางปีหน้า ที่ 26.0 บาท
HMPRO : คาดจะบริหารผลกระทบจากเงินเฟ้อได้
SSSG ของ HMPRO ในเดือนเมษายนเป็นบวกที่ 1-2% ส่วน SSSG ของ MegaHome ทรงตัว แต่ของ HomePro Malaysia พลิกกลับเป็นบวกอยู่ที่ 10% คาดว่ากำไรไตรมาส 2 จะยังเติบโต YoY และ QoQ จากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้น การเติบโตของยอดขาย และอัตรากำไรที่ขยายตัว แม้จะต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ
ประมาณการผลกระทบที่ 2% ต่อกำไรสุทธิ บนสมมุติฐานต้นทุนดีเซลที่ลิตรละ 35 บาท และอีก 2% จากสมมติฐานการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 20% พร้อมกับปรับปีฐานราคาเป้าหมายเป็นกลางปีหน้า ที่ 17.60 บาท