SENA ผนึก LEO ต่อยอดธุรกิจ Warehouse และ Self Storage
1251 จำนวนผู้เข้าชม |
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน บริษัทฯ ได้ทรานส์ฟอร์มรูปแบบการทำธุรกิจโดยยึดกลยุทธ์ “SENA Next” มิติใหม่สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” ผ่าน 3 แกนหลัก คือ Next Expansion, Next Era และ Next Level
ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งของ Next ERA คือ การเฟ้นหาพันธมิตรเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ (New Business) ภายใต้บริษัทใหม่ในเครือ บริษัท เอสเค แอสเซ็ท แมเนจเม้นท์ (SKA) เพื่อดำเนินธุรกิจหลักให้บริการเช่าคลังสินค้า (Warehouse) และธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า (Self Storage) พร้อมช่วยบริหารจัดการแบบครบวงจรที่สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจให้กับลูกค้า
ล่าสุด SKA ได้ร่วมเป็น Strategic Partner กับ บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) โดยใช้ความชำนาญในการหาที่ดินมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจ และความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างของกลุ่ม SENA มาผสมผสานกับประสบการณ์ของ LEO ที่เป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ให้บริการครอบคลุมทั่วโลกมายาวนานกว่า 32 ปี และมีบริการบริหารคลังสินค้าหลากหลายรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ มาช่วยสนับสนุนการหาลูกค้าเช่าคลังสินค้า รวมถึงธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า (Self Storage)
และก้าวแรกของความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัท จะเริ่มต้นในธุรกิจ Self Storage ด้วยการพัฒนาพื้นที่บริเวณฯศูนย์การค้าเสนาเฟสท์ เจริญนคร 16 ซึ่งมีพื้นที่กว่า 13,000 ตารางเมตร ที่มีความต้องการ Self Storage ทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะขยายบริการไปสู่ทำเล รัชดา - พระราม 9 หรืออารีย์ ซึ่งเป็นโซนที่มีคอนโดมีเนียมหนาแน่น ในระยะต่อไป
สำหรับธุรกิจบริการเช่าคลังสินค้า ทั้ง 2 บริษัท กำลังอยู่ในระหว่างการมองหาทำเลที่มีศักยภาพ เน้นทำเลใกล้การขนส่งทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ และในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง เพื่อต่อยอดธุรกิจ โดยในเบื้องต้น กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเริ่มต้นธุรกิจ บริเวณลาดกระบัง บางนา หรือวังน้อย
โอกาสนี้ นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO เชื่อมั่นว่า การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้ จะช่วยต่อยอดในส่วนของการให้บริการด้านคลังสินค้าและธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า (Self Storage) ให้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สามารถขยายฐานลูกค้าและพื้นที่ในการให้บริการได้มากขึ้น เพราะทั้ง 2 องค์กร เป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโลจิสติกส์ จึงสามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี
