1344 จำนวนผู้เข้าชม |
เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี บริษัทผลิตไฟฟ้าสิงคโปร์ที่มีฐานธุรกิจในอาเซียนและออสเตรเลีย ร่วมกับ บมจ. ราช กรุ๊ป (RATCH) จัดพิธีเปิดโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง (NRER) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับโรงไฟฟ้าแห่งนี้สู่ความเป็นเลิศและผลิตไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้า NRER เป็นโรงไฟฟ้าแบบผลิตพลังงานร่วม (Cogeneration) หรือโรงไฟฟ้าที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าควบคู่ไปพร้อมกับการผลิตพลังงานความร้อน เช่น ก๊าซร้อน หรือไอน้ำ ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งเชื้อเพลิง มีกำลังการผลิต 92 เมกะวัตต์ (MW) โดยไฟฟ้ากำลังการผลิต 90 MW จะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี รวมถึงให้บริการลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม SSP ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH กล่าวว่า บริษัทฯ ยินดีกับความสำเร็จของโครงการ และชื่นชมกับความทุ่มเททำงานของทีมงานทั้ง 2 ฝ่าย ที่ช่วยกันขับเคลื่อนโครงการจนแล้วเสร็จได้ตามกำหนดเวลา และงบประมาณที่วางไว้ แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดช่วงการก่อสร้าง พร้อมกับคาดหวังที่จะเห็นความร่วมมือทางธุรกิจในอนาคตอันใกล้นี้ ตามความต้องการใช้พลังงานที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
ที่สำคัญ RATCH มุ่งหวังให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง จากการที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีรุ่นล่าสุดของเครื่องกังหันก๊าซระบบความร้อนร่วมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่มีในปัจจุบัน ที่ช่วยประหยัดการใช้พลังงานให้ลดน้อยลง และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
เช่นเดียวกับนายเซอร์เรนเดอร์ ซิงห์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ของเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ที่ขานรับเช่นกันว่า โครงการ NRER แสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทฯ ในการทำงานร่วมกับพันธมิตร โดยผสานจุดแข็ง รวมถึงความมุ่งมั่นของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าด้วยกัน เพื่อส่งมอบไฟฟ้าที่สะอาด และเชื่อถือได้ให้กับลูกค้า
นอกจากนี้ การที่โรงไฟฟ้า NRER ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า จึงมีความพร้อมที่จะใช้ไฮโดรเจนเป็นแหล่งเชื้อเพลิง เมื่อเชื้อเพลิงชนิดนี้มีจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งบริษัทฯ พร้อมจะเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นผู้พัฒนาโครงการที่เป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ได้แก่ พลังงานน้ำ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน เพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทน ที่มุ่งเน้นโซลูชั่นด้านพลังงานในภูมิภาคนี้ต่อไป
ขณะที่นายแมธธิว บาร์ทลี ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี กล่าวเสริมว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการประเภทโคเจนเนอเรชั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรมไฟฟ้าลักษณะเดียวกัน เพราะสามารถผลิตไฟฟ้าที่สะอาด เชื่อถือได้ ในราคาที่เข้าถึงได้สำหรับลูกค้าในประเทศไทย บริษัทฯ ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจ ที่ทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วง และเพิ่มความมั่นใจในการขยายการเติบโตในภูมิภาคเอเชียและออสเตรเลียต่อไป