ผู้ถือหุ้นเดิม LEO ตอบรับใช้สิทธิลงทุนหุ้นกู้แปลงสภาพท่วมท้น เชื่อมั่นธุรกิจทำ New High ใหม่

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) บอกว่า หลังจากบริษัทฯ เปิดขายหุ้นกู้แปลงสภาพ อายุ 1 ปี 9 เดือน ให้ดอกเบี้ยในอัตราปีละ 5.75% จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตรา 1,255 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ ราคาเสนอขาย 1,000 บาทต่อ 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ คิดเป็นมูลค่า 255 ล้านบาท พร้อมแจกวอแรนท์  LEO-W1 ฟรี จํานวนไม่เกิน 25.50 ล้านหน่วย ให้กับผู้ถือหุ้นที่ได้จองซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ ในสัดส่วน 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ ต่อ 100 หน่วย LEO-W1 ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ถึงวันที่  4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่า ผู้ถือหุ้นเดิมให้การตอบรับด้วยดี จนทำให้มียอดจองเกินจำนวนที่จัดสรร สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง 

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินทุนไปใช้เสริมความแข็งแกร่ง และร่วมลงทุนกับพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจทั้งในประเทศ และในภูมิภาคอาเซียน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเตรียมพร้อมเรื่องเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายตัวของยอดขายที่ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะ 4,700-4,800 ล้านบาท หรือเติบโต 30-35% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามแผนที่วางเอาไว้ 

ซึ่งเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ ถูกตีความจากฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ฟิลลิป (PLS) ว่า เป็นไปได้ เพราะแนวโน้มธุรกิจยังมีพัฒนาการทางบวก ประกอบกับธุรกิจเข้าสู่ high season ในไตรมาส 2 และ 3 จึงน่าจะเห็นกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ (New high) ได้ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ที่ทำ New high เป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันไปแล้ว อีกทั้งในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังมีแผนขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางเรือ ทางอากาศ ระบบราง หรือการเปิด self storage แห่งที่ 3 และ 4 การทำคลังสินค้า รวมไปถึงการขยายช่องทางธุรกิจผ่านการร่วมลงทุน หรือซื้อกิจการ จึงปรับประมาณการรายได้เพิ่มเป็น 4,455 ล้านบาท พร้อมปรับกำไรขึ้น 11.4% เป็น 270 ล้านบาท ขยายตัว 35.7% จากปีก่อน คิดเป็นมูลค่าพื้นฐานที่ 21.10 บาท อิง P/E 25 เท่า  

ก่อนหน้านี้ ค่ายบัวหลวง (BLS) ระบุว่า LEO น่าจะรายงานกําไรหลักทําสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 2 หนุนโดยอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้น และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ผลักดันให้กําไรขยายตัว YoY ขณะที่ปัจจัยด้านฤดูกาล รวมถึงการมีเที่ยวบินไปจีนมากขึ้น แม้จะมีการล็อคดาวน์ในหลายเมือง และการขนส่งทางอากาศที่ยังคงมียอดจองเต็ม จะสนับสนุนให้กำไรขยายตัว QoQ  ถึงแม้ธุรกิจจะมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทฯ ก็สามารถส่งผ่านต้นทุนไปยังลูกค้าได้

ซึ่งการที่ราคาหุ้นในปัจจุบันอ่อนตัวลงมา ถือเป็นโอกาสในการเข้าสะสม เพราะเชื่อมั่นว่า LEO จะรายงานกําไรหลักรายไตรมาสที่แข็งแกร่งตลอดปีนี้ ประมาณ 288 ล้านบาท จากฐานรายได้ 5,277 ล้านบาท คิดเป็นราคาเหมาะสม 22.50 บาท

ที่สำคัญ ค่ายบัวหลวง บอกด้วยว่า อาจปรับเพิ่มประมาณการกําไรจากธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระบบรางไป จีน-ลาว เพิ่มเติม หากประเทศจีนเริ่มใช้นโยบาย Zero-Covid