TTB ประกาศกำไรครึ่งปีแรก 6.6 พันล้านบาท โต 25% YoY

บมจ. ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาต (TTB) รายงานผลดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก สรุปได้ว่า มีกำไรสุทธิ 6,633 ล้านบาท เติบโต 25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) เป็นผลจากการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งในส่วนของการเติบโตสินเชื่อ แนวโน้มด้านรายได้ การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และคุณภาพสินทรัพย์ จึงทำให้ธนาคารยังคงรักษาแนวโน้มหรือโมเมนตัมเชิงบวกของผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว 

โดยรายได้มีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งด้านรายได้ดอกเบี้ยที่ได้แรงหนุนจากการเติบโตสินเชื่อ และด้านรายได้ค่าธรรมเนียมที่ปรับตัวดีขึ้น จากค่าธรรมเนียมการขายประกัน และค่าธรรมเนียมกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ช่วยชดเชยรายได้จากค่าธรรมเนียมกองทุนรวมที่ยังคงชะลอตัวตามภาวะตลาดการเงินโลกที่ผันผวนมาตั้งแต่ต้นปี

แต่หากเปรียบเทียบกับครึ่งแรกปีที่แล้ว รายได้รวมจะอ่อนตัวลง 4.7% YoY อยู่ที่ 3.16 หมื่นล้านบาท ตามส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ชะลอตัวเล็กน้อย 0.13% จาก 3.00% เหลือ 2.87% ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 3.2% YoY เป็น 24,823 ล้านบาท  

อย่างไรก็ตาม สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,393 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากสิ้นปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อลูกค้ารายย่อย (นำโดยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อ บัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ตามลำดับ) หรือสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ ที่การเติบโตมาจากลูกค้าบรรษัทธุรกิจเป็นหลัก

สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานนั้น แม้จะมีค่าใช้จ่ายจากแผนลงทุนด้านดิจิทัล แต่เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการรวมกิจการด้านต้นทุน หรือ Cost Synergy จึงทำให้สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ตามแผน สะท้อนได้จากอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่อยู่ในกรอบเป้าหมายมาโดยตลอด

ขณะที่ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองฯ ก็ลดลงเช่นกัน เป็นผลจากแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ลดลงเมื่อเทียบกับหลายไตรมาสก่อนหน้า ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธนาคารได้ตั้งสำรองฯ ล่วงหน้าไว้แล้วบางส่วนในปีก่อน และมีการดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ ควบคู่กับแก้ปัญหาหนี้เสียเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวม (NPLs) ลดลงมาอยู่ที่ 2.63% เทียบกับ 2.81% ในสิ้นปีที่แล้ว สะท้อนผ่านผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิด (ECL) ลดลง 16.2% YoY เป็น 9,190 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนเงินสำรองฯ ต่อหนี้เสียเพิ่มขึ้นจาก 129% ในสิ้นปีที่แล้ว เป็น 133% สะท้อนให้เห็นว่าการตั้งสำรองฯ ในระดับปัจจุบันมีความเพียงพอ และธนาคารยังมีกันชนรองรับความเสี่ยงในระดับสูง 

ส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนยังอยู่ในระดับสูงเป็นลำดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม โดยปิดงวดครึ่งปีแรก TTB มีสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นมาเป็น 19.9% คิดเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ในอัตรา 15.8% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารกลุ่ม D-SIBs ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ที่ 12.0% และ 9.5% ตามลำดับ

โอกาสนี้ นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTB กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังด้วยว่า ธนาคารจะยังคงใช้กลยุทธ์การเติบโตอย่างมีคุณภาพ เน้นการเติบโตสินเชื่อใหม่อย่างระมัดระวัง และเน้นกลุ่มลูกค้าความเสี่ยงต่ำเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อ ขณะที่ ttb consumer จะช่วยสนับสนุนการเติบโตสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ซึ่งคาดว่าจะผลักดันให้รายได้ดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อฟื้นตัวได้มากขึ้นในช่วงถัดไป

ขณะที่การดูแลคุณภาพสินทรัพย์ จะยังคงยึดนโยบายรัดกุมต่อไป เพื่อรักษาฐานะทางการเงินให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่ ควบคู่ไปกับการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อผลักดัน TTB ให้เป็นธนาคารที่เป็นผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น (The Bank of Financial Well-being )ให้กับคนไทย ทั้งในวันนี้ และในอนาคต ตามยุทธศาสตร์ของธนาคาร