PREB เตรียมเปิดขาย 2 โครงการแนวราบใหม่ ไตรมาส 3 นี้ หวังดันพอร์ตรายได้จากอสังหาฯ พุ่งเป็น 20%

1380 จำนวนผู้เข้าชม  | 

PREB เตรียมเปิดขาย 2 โครงการแนวราบใหม่ ไตรมาส 3 นี้ หวังดันพอร์ตรายได้จากอสังหาฯ พุ่งเป็น 20%

นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ. พรีบิลท์ (PREB) เปิดเผยว่า เพื่อต่อยอดความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอีกช่องทางหารายได้ของบริษัทฯ ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รวดเดียว 2 โครงการ บริเวณรังสิต-คลองหลวง แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 117 ยูนิต ตั้งราคาขายที่ 5.69–7.0 ล้านบาท ชื่อ โครงการ “พิมนารา ธรรมศาสตร์ รังสิต” และโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 250 ยูนิต ตั้งราคาขายที่ 2.6–3.0 ล้านบาท ชื่อ โครงการ ”พรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์ รังสิต” กำหนดเปิดขายต้นไตรมาส 3 นี้ทันที ซึ่งคาดว่า จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า จากทำเลที่ตั้งโครงการที่สะดวก คอนเซ็ปต์รูปแบบบ้าน คุณภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้การเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลาง ถึงหรู ช่วงก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จ 



ก่อนหน้านี้ PREB ประสบความสำเร็จจากโครงการ “พรรณนา พุทธมณฑลสาย 3” ซึ่งเป็นโครงการแรกที่บริษัทฯ ลงทุนเต็มตัวทำตลาดบ้านเดี่ยวระดับ Hi-end เปิดตัวช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2563 ถึงวันนี้ สามารถปิดการขาย และโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกบ้านได้แล้วกว่า 70% ต่อเนื่องด้วยโครงการที่สอง “พิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา” ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 6.7 – 8.0 ล้านบาท ปัจจุบันสามารถปิดการขายได้แล้วกว่า 50% ของเฟสที่เปิดขาย และได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ไปบางส่วนแล้ว

นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาโครงการเพิ่มเติม ในอีก 2 ทำเล โดยกำลังอยู่ในระหว่างการสรรหาที่ดินที่เหมาะสม แต่ในเบื้องต้น กำหนดทำเลแรกย่านทวีวัฒนา ทำโครงการบ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ตั้งราคาขายราว 15-20 ล้านบาท ส่วนทำเลที่สอง ตั้งเป้าหมายย่านศาลายา เพื่อขึ้นโครงการบ้านเดี่ยวขนาด 50-70 ตารางวาขึ้นไป ที่ราคาขายประมาณ 5.5-7.0 ล้านบาท

สำหรับทิศทางในอนาคต บริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ เพื่อต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยผลักดันให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้



เฉพาะปีนี้ PREB ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 20% ขับเคลื่อนโดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ครึ่งปีแรกราว 7,000 ล้านบาท ในสัดส่วน 70% ตามมาด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 20% ที่เหลือ 10% มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง (PCM)  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้