บริษัทร่วมทุน GULF-GUNKUL ลงตัว พร้อมลุยธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เป้าแรก 1,000 MW ใน 5 ปี 

1602 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บริษัทร่วมทุน GULF-GUNKUL ลงตัว พร้อมลุยธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เป้าแรก 1,000 MW ใน 5 ปี 


หลังจาก บมจ. กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) และบริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี (Gulf Renewable Energy) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือในการลงทุนและพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน เพื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานหมุนเวียนรูปแบบอื่น ครอบคลุมถึงธุรกิจด้านนวัตกรรมพลังงานต่างๆ เช่น ระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ในอนาคต ผ่านบริษัทร่วมทุน ชื่อ "กัลฟ์ กันกุล คอร์ปอเรชั่น (Gulf Gunkul Corporation -GGC)” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ที่ผ่านมา ทั้ง GUNKUL และ GULF ได้ร่วมกันศึกษารายละเอียดต่างๆ และเตรียมความพร้อมในหลายมิติ ทั้งด้านเทคนิค ด้านคุณสมบัติ และด้านเงินทุน เพื่อเดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน ที่มุ่งสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยกำหนดเป้าหมายแรกด้วยการมีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,000 เมกะวัตต์ (MW) ภายใน 5 ปี และสร้าง Clean Electrification ให้พลังงานหมุนเวียนกลายเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของประเทศ 

และก้าวแรกของบริษัทร่วมทุน GGC ก็เปิดฉากขึ้นด้วยการที่ GUNKUL ยกเอาโครงการโรงไฟฟ้า 3 แห่ง ใส่เข้ามาเป็นสินทรัพย์มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ในบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะมีผลให้ GUNKUL สูญเสียกำไรบางส่วนไปในระยะสั้น จากการเปลี่ยนการรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย เป็นบริษัทร่วม แต่ในระยะกลางถึงยาว จะเอื้อต่อศักยภาพของบริษัทร่วมทุนแห่งนี้  ขณะที่ GULF จะใส่เงินด้วยการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใน GGC ในสัดส่วน 50% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนของ GGC เพิ่มจาก 1,117 ล้านบาท เป็น 2,243 ล้านบาท และทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายถือหุ้นเท่ากันในสัดส่วนฝ่ายละ 50%

ปัจจุบัน GGC ถือหุ้น 100% ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3 บริษัท คือ บริษัท พัฒนาพลังงานลม (กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 60 MW) บริษัท กรีโนเวชั่น เพาเวอร์ (กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 60 MW) และบริษัท โคราช วินด์เอ็นเนอร์ยี (กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 50 MW) คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมทั้งสิ้น 170 MW โดยโครงการแรกเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2559 ส่วน 2 โครงการหลังเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2561 และทุกโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ) เป็นระยะเวลา 25 ปี


ที่สำคัญ โครงการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐให้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 3.50 บาท ต่อกิโลวัตต์ เป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ และสามารถรับรู้กำไรในงบการเงินของ GGC ได้ทันที

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้