DMT มั่นใจรายได้ค่าผ่านทางปีนี้โต 50% พร้อมเดินหน้าประมูลทางด่วน 3 เส้นทาง มูลค่ากว่าแสนล้านบาท

นายธานินทร์ พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) กล่าวถึงแผนดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า หลังจากภาครัฐมีแผนเชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการทางหลวงพิเศษ ทำให้บริษัทฯ เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการที่อยู่ในแผนธุรกิจ จำนวน 3 สาย คิดเป็นมูลค่ารวม 102,443 ล้านบาท ได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต–บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กิโลเมตร มูลค่า 39,956 ล้านบาท โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 25 กิโลเมตร มูลค่า 48,310 ล้านบาท และโครงการทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 4 กิโลเมตร มูลค่า 14,177 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการติดตามความคืบหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพของบุคลากร การจัดการทางการเงิน หรือการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารทางด่วนให้มีคุณภาพ มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ใช้บริการทางยกระดับได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ขณะที่ ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ DMT เสริมว่า ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีการวางรากฐานการทำงานให้เป็นมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งเป็นการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ระบบ M-Pass ระบบ Easy Pass การชำระค่าผ่านทางด้วยบัตร EMV หรือ QR Payment รวมไปถึงการติดตั้งทดสอบระบบ Multi Lane Free Flow (MLFF) จนได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001 และ ISO14001 และในครึ่งปีหลังนี้ จะทดสอบการเชื่อมต่อระบบกับกรมทางหลวง  

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาระบบจัดการจราจรและเฝ้าระวัง มีศูนย์ควบคุมการปฏิบัติงาน การตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติ หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ อีกทั้งมีการทดสอบระบบ AI ของกล้องวงจรปิด จำนวน 159 ตัว ในไตรมาส 2 เพื่อให้การตรวจจับมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยให้สูงขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดโครงการใหม่ๆ ในอนาคต  

สำหรับภาพรวมธุรกิจทั้งปีนี้ น่าจะมีพัฒนาการตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ค่าผ่านทางที่ 1.9 พันล้านบาท คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อวันที่ 5.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 50% เพราะคาดว่าปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก 40% จากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น หนุนโดยการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ภาครัฐ โดยเฉพาะการเปิดประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และการเปิดภาคเรียนตามปกติ พร้อมกันนั้น บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง