1242 จำนวนผู้เข้าชม |
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (TTB) หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า เมื่อย้อนกลับไป 1 ปีที่แล้ว ทีเอ็มบีธนชาตได้ควบรวมกิจการสำเร็จเป็นหนึ่งเดียว พร้อมประกาศพันธกิจเป็นธนาคารที่ต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย อย่างไรก็ตาม กับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูง ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความเปราะบางอยู่ เพราะเงินเฟ้อที่สูงบ่งชี้ให้เห็นว่ารายได้ของทุกคนลดลง ตามราคาสินค้าและบริการที่แพงขึ้น ยิ่งปัญหาภาระหนี้ครัวเรือนไทยที่ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงถึง 91% ต่อจีดีพี ทำให้พันธกิจที่ธนาคารมุ่งหวังเป็นประเด็นที่มีความท้าทายเพิ่มขึ้น
กระนั้น ความสำเร็จจากการรวมกิจการของทีเอ็มบีธนชาตได้สร้างศักยภาพในการเติบโตให้กับธนาคาร จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมและครบครันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีศักยภาพในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและให้บริการลูกค้า วัดความสำเร็จได้จากผลดำเนินงานของ ttb ซึ่งล่าสุดมีกำไรสุทธิรวม 6 เดือนแรกของปีที่ 6,633 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีที่แล้ว รวมทั้งมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความเพียงพอของเงินกองทุนที่ 19.9% ซึ่งสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงการดำเนินงานที่วางแผนอย่างรอบคอบผ่านกลยุทธ์การเติบโตอย่างมีคุณภาพ
สิ่งที่ตามมา ก็คือ ธนาคารยังได้เดินหน้าทำหน้าที่ตามพันธกิจที่ประกาศไว้ โดยช่วยให้ลูกค้าจำนวนมากมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ผ่านโซลูชันที่ตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้กับผู้คนอย่างแท้จริง ได้แก่
• ช่วยให้ลูกค้ากว่า 2 ล้านรายได้รับความคุ้มครองชีวิตและรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ฟรี! โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผ่านบัญชี ttb all free ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการจ่ายสินไหมเพื่อช่วยลูกค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 30 ล้านบาท
• ช่วยให้ลูกค้ามีรถในฝันกว่า 9 หมื่นรายผ่านสินเชื่อรถยนต์ ttb DRIVE พร้อมส่งเสริมให้ลูกค้ามีวินัยทางการเงินผ่านแคมเปญผ่อนดีมีคืน ให้กับลูกค้าที่ผ่อนชำระตรงกำหนดเวลากว่า 1.3 หมื่นราย นอกจากนี้ยังคงดูแลลูกค้าปัจจุบันอย่างต่อเนื่องด้วยการเสนอโปรแกรมช่วยเหลือให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้ากว่า 3 หมื่นราย
• ช่วยให้ลูกค้ามีบ้านในฝันได้สำเร็จกว่า 1.5 หมื่นหลัง พร้อมมอบประกันอัคคีภัยให้ฟรี! เพื่อเพิ่มความอุ่นใจ ตลอดอายุสัญญา ผ่านสินเชื่อ ttb home loan
• ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ลูกค้าผ่านสินทรัพย์และโปรแกรมรวบหนี้ที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยผ่าน สินเชื่อ ttb cash your car กว่า 1 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อ ttb cash your home ไปกว่า 4.4 พันล้านบาท
• ช่วยให้ลูกค้ากว่า 2 แสนรายสามารถเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในยามฉุกเฉินผ่านสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
• ช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่านพอร์ตกองทุน ttb smart port โดยช่วง 1 ปีที่ผ่านมามียอดเงินลงทุนรวมเพิ่มกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และท่ามกลางภาวะตลาดที่ผันผวนธนาคารได้ช่วยให้ลูกค้ากลุ่มรายได้ระดับกลางกว่า 8 พันรายสามารถเข้าถึงและเริ่มต้นลงทุนได้
• ช่วยให้ลูกค้ามีความคุ้มครองด้วยประกันที่เหมาะสม ครอบคลุมทั้งประกันสุขภาพ (Health) ในราคาที่จับต้องได้ จำนวน 12,000 กรมธรรม์ และประกันเพื่อการออม (Saving) กว่า 17,000 กรมธรรม์ รวมทั้งประกันเพื่อคุ้มครองชีวิต (Protection) อีก 183,000 กรมธรรม์ โดยมีการจ่ายสินไหมเพื่อช่วยลูกค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 1.2 พันล้านบาท
• ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจที่มีปัญหาสภาพคล่องเข้าถึงสินเชื่อได้เร็วและเหมาะสมที่สุดกว่า 1 หมื่นราย ผ่านมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset Warehousing) และมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู (Special Loan) เป็นจำนวนเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ทีเอ็มบีธนชาตเชื่อในเรื่องการ Make REAL Change สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริง ผ่านการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินของธนาคาร ภายใต้แนวคิด ชีวิตการเงินดีต้องมี 4 มิติสำคัญ ได้แก่
มิติที่ 1: ฉลาดออม ฉลาดใช้ ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และแบ่งออมก่อนใช้ เพื่อมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน
มิติที่ 2: รอบรู้เรื่องกู้ยืม ศึกษาทำความเข้าใจ เพื่อเลือกใช้สินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพการเงินของตนเอง โดยต้องสำรวจรายได้-รายจ่ายของตัวเองอย่างละเอียด
มิติที่ 3: ลงทุนเพื่ออนาคต ท่ามกลางความผันผวนของตลาดทั่วโลก การลงทุนยังเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่เราต้องเลือกลงทุนในเครื่องมือที่มีความผันผวนต่ำ กระจายความเสี่ยงได้ดีและที่สำคัญสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีความรู้การลงทุนมากนักควรเลือกลงทุนในรูปแบบที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลพอร์ตลงทุนให้
มิติที่ 4: มีความคุ้มครองที่อุ่นใจ พอดีกับช่วงชีวิตและความต้องการ เพื่อไม่ต้องเอาเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต ใช้ไปกับเรื่องฉุกเฉิน
"ทีเอ็มบีธนชาตได้เดินหน้าพัฒนาโซลูชันการเงินภายใต้ 4 มิติพื้นฐานนี้มาตลอด แต่ถึงแม้ธนาคารจะมีโซลูชันที่ดี ทว่ากับภาวะเศรษฐกิจที่มีความอ่อนไหวในขณะนี้ ธนาคารอยากชวนคนไทยให้หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงิน โดยนำแนวคิด 4 มิติพื้นฐานดังกล่าวไปปรับใช้ เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีได้ด้วยตัวของลูกค้าเอง ขณะที่ธนาคาร ในฐานะ The Bank of Financial Well-being ก็พร้อมทำหน้าที่ของธนาคารให้ดีที่สุด เพื่อจับมือเดินหน้าไปกับลูกค้าสู่ชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้ และอนาคต” นายปิติ ฝากข้อคิดท้ิงท้าย