1638 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจาก บมจ. ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ประกาศผลดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก สรุปได้ว่า มีกำไรจากธุรกิจหลัก 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่เนื่องจากบริษัทฯ มีผลขาดทุนจากส่วนแบ่งเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า บริษัทสิริโปร จึงทำให้กำไรสุทธิลดลง 13.2% YoY เหลือ 145 ล้านบาท ทั้งที่รายได้รวมยังเติบโตได้ 18% YoY มาอยู่ที่ 2,457 ล้านบาท แต่หากมองแค่ผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ จะพบว่า กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 57% YoY เป็น 116 ล้านบาท ตามรายได้ที่เติบโต 25% YoY
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การที่ยอดขายในประเทศยังขยายตัวได้ดี และเติบโตสูงกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม หนุนโดยสินค้าเรือธง และการทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งไตรมาส 2 ของทุกปี ยังเป็นช่วงไฮซีซันในการจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ ขณะที่ยอดขายต่างประเทศ ได้อานิสงค์จากตลาดเวียดนามที่ยังเติบโตดีต่อเนื่อง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผลดำเนินงานเติบโตได้ดีต่อเนื่อง
“การที่ยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว ทั้งด้านคุณภาพและการบริการ ตลอดจนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่างเจเล่ และเบนโตะ ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทยอยวางตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง” ผู้บริหารรายนี้ ชี้แจง
โอกาสนี้ บริษัทฯ พร้อมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 22 สิงหาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 6 กันยายน
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP ยังบอกด้วยว่า การที่ผลดำเนินงานครึ่งปีแรกออกมาสดใส ทำให้มั่นใจว่า บริษัทฯ จะทำยอดขายรวมทั้งปีแตะ 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ตามแผนงานที่วางไว้
"เพื่อขับเคลื่อนยอดขายให้ได้เป้าหมายที่ตั้งไว้ บริษัทฯ พร้อมทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่างเจเล่ และเบนโตะ ที่สำคัญ บริษัทฯ เตรียมปรับโฉม เจเล่ รวมถึงเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ๆ เพื่อสื่อสารทางการตลาด และสร้างกระแสครั้งใหญ่ต่อผู้บริโภค ภายในไตรมาส 3 นี้ ขณะที่ตลาดต่างประเทศ พร้อมจะเร่งขยายช่องทางการทำตลาด และลงทุนสร้างฐานธุรกิจไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นตลาดเวียดนาม กัมพูชา หรือประเทศส่งออกอื่นๆ ซึ่งมีแนวโน้มจะเติบโตได้ดีขึ้น ในทุกไตรมาส” นายวิโรจน์ ทิ้งท้าย
แผนธุรกิจและเป้าหมายรายได้ที่ผู้บริหารให้ข้อมูลข้างต้น ได้รับการขานรับจากนักกลุยทธ์ และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายสำนัก ในทำนองเดียวกับโนมูระ พัฒนสิน (CNS) และเคทีบีเอสที (KTBST) ที่บอกว่า จะเห็น SNNP โชว์กำไรครึ่งปีหลังโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก ส่งผลให้กำไรทั้งปี สร้างสถิติสูงสุดใหม่ (New High)
CNS บอกว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อ SNNP จากความสำเร็จของยอดขายในประเทศ ทำให้สินค้าหลักอย่างเจเล่ และเบนโตะ ครองความเป็นผู้นำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยเจเล่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 68% เป็น 76% ส่วนเบนโตะเพิ่มจาก 72% เป็น 73% ประกอบกับกำไรขั้นต้นยังดูดีต่อเนื่องตลอดปี จากตลาดเวียดนามที่สูงกว่าไทย เนื่องจากเป็นโรงงานใหม่ มีประสิทธิภาพสูงกว่า มีต้นทุนค่าแรงถูกกว่าไทย และช่องทางการจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นการขายผ่าน Traditional Trade กว่า 80% ซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า Modern Trade ทำให้คาดกำไรเติบโตทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องรายไตรมาส และมีผลกำไรทั้งปีขยายตัวสูงถึง 40% จึงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 21 บาท อิง DCF (WACC 14.7%, Terminal Growth 2.0%)
ส่วน KTBST ระบุว่า คาด SNNP จะมีกำไรขยายตัวดีในครึ่งปีหลัง จากรายได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยรายได้ในประเทศมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หนุนโดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นกลางไตรมาส 2 และแผนทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งหมด 11 SKUs ขณะที่รายได้ต่างประเทศมีแนวโน้มขยายตัวทั้ง YoY และ HoH จากทั้งความคล่องตัวของการขนส่งทางเรือ และความสำเร็จในตลาดเวียดนาม ซึ่งยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก หากโรงงานพร้อมเดินเครื่องกำลังการผลิตเต็มที่ในเฟส 3 คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ปีละ 2,000 ล้านบาท หนุนให้บริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ซึ่งเมื่อประเมินมูลค่าหุ้น ค่าย KTBST ให้ราคาเป้าหมาย 20 บาท อิง PER 38 เท่า และแนะนำ "ซื้อ" จาก valuation ปัจจุบันที่ซื้อขายบริเวณ PER ระดับ 30-31 เท่า เทียบกับการเติบโตของกำไรปกติปีนี้ ที่ 63% YoY และปีหน้าที่ 30% YoY