ยก GLOBAL valuation จูงใจ รับกำไรครึ่งปีแรก All Time High แนะเก็บไตรมาส 3 Low Seson

2265 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยก GLOBAL valuation จูงใจ รับกำไรครึ่งปีแรก All Time High แนะเก็บไตรมาส 3 Low Seson



หลังจาก บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปีนี้ สรุปได้ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 9,219.54 ล้านบาท และมีรายได้อื่น 199.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.73% และ 10.97% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ตามลำดับ หนุนให้ธุรกิจมีกำไรเฉพาะกิจการ 1,016.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.07% YoY และหากนับรวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า ผ่านบริษัทโกลบอลเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทย่อย Global House Cambodia จะทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,031.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.92% YoY

สำหรับผลดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,195.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% YoY สาเหตุหลักจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 7.32% YoY เป็น 18,853.22 ล้านบาท ทั้งจากสาขาใหม่ที่เปิดเพิ่ม 3 สาขา และยอดขายสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนด้วยการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าขนส่ง ช่วยผลักดันให้รายได้อื่นขยายตัว 12.6% YoY มาที่ 371.17 ล้านบาท

และหากพิจารณาในแง่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) งวดไตรมาส 2 บริษัทฯ ทำได้ 1,638.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.37% YoY ส่วนงวดครึ่งปีแรก อยู่ที่ 3,422.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.23% YoY ขณะที่กำไรขั้นต้นงวดไตรมาส 2 อยู่ที่ 2,438.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.95% YoY คิดเป็นอัตรา 26.45% ของรายได้จากการขาย ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 0.56% YoY ขณะที่งวดครึ่งปีแรก อยู่ที่ 4,954.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.82% YoY คิดเป็นอัตรา 26.28% ของรายได้จากการขาย ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 0.60% YoY จากการกระตุ้นยอดขายสินค้ากลุ่ม House Brand

ผลดำเนินงานไตรมาส 2 ของ GLOBAL ได้รับการยอมรับจากนักวิเคราะห์ทุกสำนักว่า ออกมาดีกว่าตลาดคาด ซึ่งเป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 26.4% ขับเคลื่อนโดยส่วนแบ่งที่สูงขึ้นของสินค้ากลุ่ม House Brand และผลักดันให้กำไรครึ่งปีแรกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอาจหนุนให้หุ้นได้รับความสนใจจากตลาดในช่วงสั้นๆ อีกครั้ง 

กระนั้น แนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 3 อาจกดดันให้ผลดำเนินงานรวมทั้งปี ขยายตัวลดลงจากครึ่งปีแรก ทำให้นักลงทุนอาจจับหวะซื้อเพื่อรอการฟื้นตัวจากเทศกาลจับจ่ายใช้สอยปลายปี เพราะ Valuation ยังน่าสนใจ

โดยบัวหลวง (BLS) ระบุว่า การที่ผลดำเนินงานครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอตัวลง มีสาเหตุจากปัจจัยฤดูกาล (Low Season) อย่างไรก็ดี คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 จะเติบโตแข็งแกร่ง YoY และเติบโตสูงกว่าไตรมาส 2 เนื่องจากฐานที่ต่ำ ส่วนแนวโน้มการเติบโตของกําไรในไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีหน้า จะตื่นเต้นน้อยลงจากฐานกำไรที่สูง ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะเมื่อย้อนดูสถิติกําไรหลักในครึ่งปีแรก จะพบว่า มีน้ำหนักต่อประมาณการกำไรทั้งปีสูงระดับ 57-58% ดังนั้น จึงยังคงประมาณการกำไรทั้งปีตามเดิม ที่ 3,755 ล้านบาท พร้อมคงราคาเป้าหมายที่ 20 บาท อิงวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) และแนะนำ ถือลงทุนข้ามปี

เช่นเดียวกับเคทีบีเอสที (KTBST) ที่คงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้และปีหน้า ที่ 3,492 ล้านบาท และ 3,703 พันล้านบาท ตามเดิม เพราะคาดผลดำเนินงานครึ่งปีหลังจะยังทรงตัวได้ YoY จากการบริหารจัดการเรื่องของต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี และคงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 23 บาท อิง PER ปีนี้ที่ระดับ 31.5 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี (5Y historical average) เพราะราคาหุ้นล่าสุดซื้อขายที่ PER ระดับ 26.6 เท่า เทียบเท่า -1.25 SD below 5Y historical average และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 31.9 เท่า

ส่วนไพ (PI) บอกว่า แม้แนวโน้มผลดำเนินงานครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตชะลอตัวลง YoY จากอุปสงค์การทำงานที่บ้านลดลง และกิจกรรมการก่อสร้างที่ชะลอตัวลงจากฤดูฝน แต่การที่อัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งปีแรกที่ดีกว่าคาด ทำให้ปรับประมาณการกําไรปีนี้ขึ้น 5% แต่คงมูลค่าพื้นฐานตามเดิม ที่ 22 บาท อิง P/E กลางปีหน้า ที่ระดับ 30 เท่า คิดเป็นอัตราคิดลด 15% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย

ขณะที่หยวนต้า (YUANTA) มองต่างมุมเล็กน้อย โดยชี้ว่า แม้ผลดำเนินงานไตรมาส 3 ของ GLOBAL คาดจะถูกกระทบจากปัจจัยฤดูกาล และฐานที่สูง กดดันให้ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อ่อนตัวลง แต่คาดผลดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายของปี จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของยอดขายและผลดำเนินงานอีกครั้ง รับเทศกาลจับจ่ายใช้สอยปลายปี ประกอบกับการกลับมาของนักท่องเที่ยว น่าจะกระตุ้นให้มีการซ่อมแซมหรือตบแต่งจากธุรกิจต่างๆ เพิ่มขึ้น

ดังนั้น เมื่อพิจารณาประกอบเข้ากับ Valuatuion ซึ่งราคาหุ้นล่าสุดซื้อขายบริเวณ P/E ที่ 26.3 เท่า เทียบเท่า -1.25 SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ที่ P/E 39 เท่า ถือได้ว่า สะท้อนปัจจัยลบจากภาวะเงินเฟ้อไปพอควรแล้ว จึงแนะนำ “เก็งกำไร” โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 24 บาท

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้