MASTER สถานพยาบาลด้านศัลยกรรมความงามครบวงจร ยื่นไฟลิ่งเสนอขาย IPO 65 ล้านหุ้น เพื่อเข้าระดมทุนในตลาด mai

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Fillng) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดขายหุ้น (IPO) จำนวนไม่เกิน 65 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 27.08% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ ไม่เกิน 50 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญของผู้ถือหุ้นเดิม In Glory Investments Limited ไม่เกิน 15 ล้านหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai

ทั้งนี้ MASTER ทำธุรกิจสถานพยาบาลด้านศัลยกรรมความงามครบวงจรภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” ก่อตั้งโดยนายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล มีจุดแข็งทั้งเรื่องบริการที่ครบวงจร และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ ได้รับการยอมรับด้านการศัลยกรรมในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมยกคิ้วและกรอบหน้า ศัลยกรรมหน้าอก ศัลยกรรมตา ศัลยกรรมปรับโครงสร้างรูปหน้า หรือศัลยกรรมดูดไขมันปรับรูปร่าง ครอบคลุมถึงการปลูกผม ดูแลเส้นผม และดูแลผิวพรรณและเลเซอร์ ด้วยทีมแพทย์ 28 ท่าน และวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล 

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนโครงการปี 2566-2567 ทั้งการปรับปรุงอาคารและห้องผ่าตัด การจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเป็นเงินลงทุนสำหรับปรับปรุงและขยายพื้นที่ดำเนินงาน รวมถึงนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแผนการเติบโตในอนาคต 

ขณะที่นโยบายการจ่ายเงินปันผล กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ

ส่วน นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สามารถแบ่งโครงสร้างธุรกิจของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ออกเป็น 4 สายงาน คือ บริการด้านศัลยกรรม (Surgery)  บริการปลูกผมและดูแลเส้นผม (Hair Transplants and Hair Treatment) บริการดูแลผิวพรรณ (Skin) และการขายผลิตภัณฑ์หรือให้บริการหลังศัลยกรรม (Product Sales and Aftercare) แต่ละสายงานช่วยกันขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดูได้จากผลดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง (2562-2564) บริษัทฯ สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จาก 414.03 ล้านบาท ในปี 2562 เพิ่มเป็น 611.06 ล้านบาท ในปี 2563 และ 659.51 ล้านบาท ในปี 2564 สาเหตุหลักจากมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามกระแสนิยมและชื่อเสียงของบริษัทฯ หนุนให้กำไรสุทธิเติบโตตามไปด้วย จาก 61.25 ล้านบาท ในปี 2562 เพิ่มเป็น 128.55 ล้านบาท ในปี 2563 และ 162.80 ล้านบาท ในปี 2564 คิดเป็นอัตราการเติบโต 14.66% 20.89% และ 23.59% ตามลำดับ