แห่ปรับราคาเป้าหมาย TFG หลังกำไีรไตรมาส 2 โตเป็นประวัติการณ์ เกินคาดตลาด

 
บมจ. ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ สรุปได้ว่า มีรายได้ 12,476.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.68% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 1,238.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188.30% YoY ทำสถิติกำไรรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

การที่กำไรเติบโตอย่างโดดเด่น ได้รับการอธิบายจากนายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ TFG ว่า ได้ปัจจัยหนุนจากทั้งราคาเนื้อสัตว์ที่ยืนสูงต่อเนื่อง และปริมาณการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความต้องการบริโภคมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจร้านค้าปลีกมีผลตอบรับที่ดีช่วยสนับสนุนยอดขายให้เพิ่มขึ้น อีกทั้งแนวโน้มราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ และค่า Freight มีทิศทางลดลง ช่วยลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดี นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ เป็น Net Exporter เมื่อค่าเงินบาทอ่อนในช่วงครึ่งปี จึงได้รับผลดีตามไปด้วย

ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้หลักๆ แบ่งออกเป็นรายได้จากธุรกิจไก่ 5,792.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.54% YoY โดยมีราคาขายเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 59.12 บาท เพิ่มขึ้น 47.76% YoY ส่วนรายได้จากธุรกิจสุกรอยู่ที่ 3,017.15 ล้านบาท ที่ราคาขายเฉลี่ยกิโลกรัมละ 100 บาท เพิ่มขึ้น 33.24% YoY ขณะที่รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์อยู่ที่ 1,955.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.01% YoY

ส่วนผลดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีรายได้ 22,936.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.76% YoY และมีกำไรสุทธิ 1,857.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.21% YoY เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน 

โอกาสนี้ บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 29 สิงหาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 กันยายน

สำหรับภาพรวมการทำธุรกิจครึ่งหลังปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นว่า ยอดขายจะยังได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น และราคาขายสุกรกับไก่ที่ยืนระดับสูง ขณะเดียวกัน แผนลงทุนในธุรกิจสุกรทั้งในประเทศ และที่เวียดนาม รวมถึงแผนขยายสาขา ร้านไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต ที่ตั้งเป้าเอาไว้ 200 - 220 สาขา จากที่มีล่าสุด จำนวน 159 สาขา (ด้วยงบลงทุน 3.5 พันล้านบาท) เพื่อช่วยกระจายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ให้ถึงมือลูกค้ารายย่อยโดยตรง น่าจะช่วยสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯ ทั้งปีเติบโตได้ 15-20% ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้  

กำไรไตรมาส 2 ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเติบโตก้าวกระโดด 188% YoY และ 100% QoQ และเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ทุกสำนัก ทำให้มีการปรับประมาณการกำไร รวมถึงมูลค่าพื้นฐานของหุ้น TFG ตามมา

อย่างค่ายทิสโก้ (TSC) บอกว่า เชื่อมั่นว่าแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังของ TFG จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มราคาไก่และสุกรที่ยังยืนระดับสูง และกำไรขั้นต้น (GPM) ที่ดีกว่าคาด ทำให้ปรับประมาณการกำไรช่วง 2 ปีนี้ (2565-66) ขึ้น 25-35% และปรับมูลค่าเหมาะสมขึ้นจาก 7.80 บาท เป็น 9.50 บาท พร้อมแนะนำ "ซื้อ" 

ส่วนเคจีไอ (KGI) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ขึ้นอีก 75% เป็น 4.72 พันล้านบาท และปีหน้าขึ้นอีก 51% เป็น 4.54 พันล้านบาท จากการปรับเพิ่มสมมติฐานยอดขายปีนี้และปีหน้าขึ้น 3% และ 1% เพราะคาดธุรกิจสุกร และยอดขายของร้านค้าปลีกดีจะเกินคาด รวมถึงปรับเพิ่มสมมติฐาน GPM ปีนี้ขึ้นอีก 500 bps เป็น 20.6% และปีหน้า 360 bps เป็น 18.9% จากแนวโน้มผลประกอบการที่เป็นบวกอย่างมากในช่วง 2 ปีนี้ ส่งผลให้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 8.30 บาท เป็น 10.40 บาท อิง PER ที่ 14.2 เท่า ปรับลดลงจากเดิมที่ 17 เท่า เพราะเชื่อว่า ราคาเนื้อสัตว์จะทยอยปรับเข้าสู่ระดับปกติในปีหน้า