CH พร้อมซื้อขายวันแรก จันทร์ 12 ก.ย.นี้ หลังกระแสตอบรับจองซื้อหุ้น IPO ท่วมท้น

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เจริญอุตสาหกรรม (CH) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า CH พร้อมแล้วที่จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันจันทร์ที่ 12 กันยายนที่จะถึงนี้ หลังจากได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.34 บาท (โดยมีราคาพาร์ หุ้นละ 0.50 บาท) โดยเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 1, 2 และ 5 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและโอกาสเติบโตทางธุรกิจในอนาคตเป็นอย่างดี

"จุดแข็งของ CH ที่ดำเนินธุรกิจมาถึง 97 ปี ด้วยทีมผู้บริหารมากประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น จนถึงผู้บริหารปัจจุบันซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 รวมถึงมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน R&D ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ตรงความต้องการของลูกค้า และมีโรงงานของตนเอง ทำให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากลูกค้าและคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ จึงมั่นใจว่า หุ้น CH จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน” นายสมศักดิ์ กล่าว

ส่วนนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า ในช่วงเปิดจองซื้อหุ้น IPO ของ CH  ที่ผ่านมา นักลงทุนได้ให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวนตั้งแต่วันแรก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท เพราะการกำหนดราคา IPO ที่หุ้นละ 2.34 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 17.63 ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน

ขณะที่นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจริญอุตสาหกรรม (CH) ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัทอย่างล้นหลาม เงินที่ได้จากการระดมทุนราว 354.4 ล้านบาท จะทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตได้ตามแผนที่ได้วางไว้ นับเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ CH ในฐานะผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป ที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก ครอบคลุมกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีประสบการณ์มาเกือบ 100 ปี

“การระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข่งแกร่งด้านฐานะทางการเงินให้แก่ CH พร้อมรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในอนาคต โดยหลังจากนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนปรับปรุงโรงงานผลิตสินค้า ก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแผนการขยายธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต” นายศักดา กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานปีนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CH เชื่อมั่นว่า จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากครึ่งแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 910.04 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 67.34 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากการขาย 726.20 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 28.26 ล้านบาท