GULF ทุ่มงบ 1.5 หมื่นล้านบาท ลงทุนโรงไฟฟ้า Jackson ในสัดส่วน 49% สยายปีกสู่ตลาดอเมริกา
1988 จำนวนผู้เข้าชม |
บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ส่งบริษัทย่อย Gulf Energy USA ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่ม J-POWER เพื่อซื้อหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson ขนาดกำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ (MW) ในสัดส่วน 49% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson ตั้งอยู่ในเขตวิลล์ รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เพิ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโครงข่ายระหว่างเพนซิลเวเนีย นิวเจอร์ซีย์ และแมริแลนด์ (Pennsylvania - New Jersey - Maryland Interconnection: PJM) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรี (Merchant Market) ที่มีความมั่นคง และมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดในอเมริกา ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 13 รัฐ ได้แก่ เดลาแวร์ อิลลินอยส์ อินดิแอนา เคนทักกี แมริแลนด์ มิชิแกน นิวเจอร์ซีย์ นอร์ทแคโรไลนา โอไฮโอ เพนซิลเวเนีย เทนเนสซี เวอร์จิเนีย เวสต์เวอร์จิเนีย และเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย (District of Columbia)
ที่สำคัญ โรงไฟฟ้า Jackson มีการทำสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติจากผู้ให้บริการก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ ผ่านการเชื่อมต่อกับท่อก๊าซหลักถึง 3 เส้น ทำให้สามารถจัดหาเชื้อเพลิงป้อนโครงการได้อย่างเพียงพอในระยะยาว
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF ชี้แจงว่า การลงทุนในโครงการ Jackson ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ GULF ในการเข้าสู่ตลาดพลังงานอเมริกา โดยโครงการนี้ถือหุ้นทั้งหมดโดย Jackson Partners ภายใต้กลุ่ม J-POWER ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายใหญ่ที่สุดของโลก รวมทั้งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ มายาวนานกว่า 20 ปี และเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในกลุ่ม Gulf JP ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP ลำดับแรกๆ ของบริษัทฯ
นอกจากนี้ การลงทุนครั้งนี้ ยังเป็นไปตามแผนดำเนินงานของบริษัทฯ ที่จะยกระดับความมั่นคงด้านพลังงาน ด้วยการผลิตไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพ และต้นทุนต่ำ ในช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เนื่องจากโครงการ Jackson เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Combined-Cycle Gas Turbine) ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงที่สุด และเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำที่สุดในอเมริกา ที่สำคัญ การลงทุนครั้งนี้ ยังทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ได้ทันที โดยจะรับรู้รายได้เต็มที่ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจากคาดว่าธุรกรรมในการลงทุนครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้
"เราเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยอย่างยาวนาน จะสามารถนำเอาเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญ มาช่วยบริหารจัดการโครงการ Jackson ร่วมกับ J-Power ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ อเมริกายังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ GULF จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะเข้าไปพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอื่นๆ ผ่านการร่วมลงทุนกับพันธมิตรต่างๆ รวมถึง J-Power ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ในอเมริกาด้วย” ผู้บริหารสาวคนเก่งของ GULF กล่าวทิ้งท้าย
