FTI มั่นใจภาพธุรกิจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก หนุุนผลดำเนินงานปีนี้โต 25-30% ตามเป้าเดิมที่วางไว้

1806 จำนวนผู้เข้าชม  | 

FTI มั่นใจภาพธุรกิจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก หนุุนผลดำเนินงานปีนี้โต 25-30% ตามเป้าเดิมที่วางไว้

ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (FTI) ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้า ประกอบผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment) ครบวงจร เปิดเผยผลดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกว่า สามารถทำกำไรได้ 21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 21.9% ซึ่งต่ำกว่าที่คาด เพราะได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าขนส่งวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นสูง และการอ่อนค่าของเงินบาท ในไตรมาส 2 กดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง จนกำไรงวดไตรมาส 2 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) 11% และลดลงจากไตรมาสแรก (QoQ) 50% ทั้งที่รายได้จากการขายสินค้าและบริการยังทรงตัว โดยยอดขายกลุ่มครัวเรือนชะลอตัว 28% ตามกำลังซื้อที่เปราะบาง แต่สามารถชดเชยจากการฟื้นตัวของยอดขายกลุ่มพาณิชย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 25% รับการเปิดประเทศมากขึ้น และการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น




อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมั่นใจว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งหลังปีนี้จะยังเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25-30% ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการกลับมาของนักท่องเที่ยว กระตุ้นให้กำลังซื้อลูกค้ากลุ่มพาณิชย์ และกลุ่มครัวเรือน ที่มีสัดส่วนรายได้รวมกันสูงถึง 70% ขยายตัวดีขึ้น

ขณะเดียวกัน แรงกดดันจากต้นทุนค่าขนส่งวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นสูง และการอ่อนค่าของเงินบาท ที่เกิดในไตรมาส 2 เริ่มชะลอตัวลง น่าจะเอื้อให้อัตรากำไรขั้นต้นพลิกฟื้นตัวขึ้นมาได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากบริษัทฯ สามารถปรับราคาขายได้ในระดับหนึ่งแล้ว อีกส่วนหนึ่งเกิดจากกลยุทธ์การตลาดในครึ่งปีหลัง ด้วยการขยายฐานลูกค้ากลุ่มครัวเรือนเพิ่มขึ้น ผ่านการขยายตัวแทนจำหน่ายร้าน Aquatex ที่เป็นสินค้า Premium จับตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ในครึ่งหลังปีนี้เพิ่ม 3-4 สาขา ที่ลาว 1 สาขา และในประเทศอีก 2-3 สาขา รวมถึงมีแผนขยายตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มปั๊มน้ำและวาล์วควบคู่กันไปด้วย โดยไม่ลืมบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแผนงานเหล่านี้จะทำให้บริษัทฯ สามารถควบคุมอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีได้สูงกว่า 26% และผลักดันให้เป้าหมายธุรกิจเกิดขึ้นได้จริง              



สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์ เบื้องต้น ค่ายโนมูระ พัฒนสิน (CNS) เชื่อว่า FTI จะสามารถพลิกกำไรสุทธิครึ่งปีหลังได้ดีขึ้นจากครึ่งปีแรก โดยคาดจะเห็นกำไรไตรมาส 3 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ เป็น 12 ล้านบาท รับสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย ช่วยให้ทีมขายเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งการทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าให้สะท้อนต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น จะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น ก่อนจะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้าย ส่งผลให้กำไรสุทธิปีนี้และปีหน้า เติบโต 36% และ 14% YoY เป็น 49 ล้านบาท และ 56 ล้านบาท ตามลำดับ ตามแผนขยายสาขาร้าน Aquatek จำนวน 50 สาขา ภายใน 3 ปีนี้

สำหรับมูลค่าเหมาะสม ค่าย CNS ให้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 2.50 บาท อิงวิธี P/E multiple ที่ 20 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทใกล้เคียง และกลุ่ม HOME เพราะกังวลกับภาพในระยะสั้น ที่ถูกกดดันจากสถานการณ์เงินเฟ้อฉุดกำลังซื้อผู้บริโภคให้เปราะบาง แต่ยังเชื่อมั่นในภาพระยะกลางถึงยาวของอุตสาหกรรมเครื่องกรองน้ำที่มีแนวโน้มเติบโตตามกระแสใส่ใจสุขภาพ และจุดเด่นของ FTI ในฐานะผู้นำตลาดค้าส่งเครื่องกรองน้ำในประเทศ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้