2140 จำนวนผู้เข้าชม |
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการ และผู้อำนวยการโรงพยาบาล บมจ. เอกชัยการแพทย์ (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเปิดตัวโรงพยาบาลคูน (KOON Palliative Care Specialised Hospital) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแบบเฉพาะทางที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยสูงอายุ และผู้ป่วยระยะสุดท้าย ให้มีคุณภาพชีวิต มีความสุขเพิ่มขึ้น โดยใช้หลักการดูแลรักษาทั้งเชิงกายภาพร่างกายด้วยมาตรฐานโรงพยาบาล ร่วมกับการดูแลเรื่องสภาพจิตใจของทั้งผู้ป่วยและคนในครอบครัวไปพร้อมๆ กัน ภายใต้หลักคิด “Be near, be around, be with” เป็นแห่งแรกในประเทศไทย บริเวณที่ถนนพระราม 2
“การดูแลแบบ Palliative Care ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลคนไข้ที่มีโรคร้ายแรงต่างๆ บั่นทอนคุณภาพชีวิตอย่างมาก และทำให้ร่างกายเสื่อมถอยลงจนลดทอนวันเวลาในชีวิตของคนไข้ ซึ่งรวมถึงโรคมะเร็ง โรคหัวใจบางประเภท โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตวายระยะสุดท้าย โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคตับแข็งระยะท้าย โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเรื้อรัง เพื่อให้คนไข้และครอบครัวสุขสบายที่สุดเท่าที่ทำได้ รวมไปถึงการติดตามสุขภาพจิตของคนใกล้ชิดหลังการจากไปเป็นระยะเวลาหนึ่งปี” ผู้บริหาร EKH สรุปประเด็น
ทั้งนี้ โรงพยาบาลคูนแห่งแรกนี้จะมีจำนวน 30 เตียง บริหารงานโดยบริษัทเอกชัย เนอร์สซิ่งโฮม ที่เป็นบริษัทในเครือ EKH เริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา
ด้านแพทย์หญิงนิษฐา เอื้ออารีมิตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคูน เสริมเรื่องจุดแข็งว่า มีการคัดเลือกบุคลากรระดับคุณภาพ มากประสบการณ์ และพร้อมใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการพูดคุยและรับฟังทั้งคนไข้และครอบครัว ครอบคลุมทั้งแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยเหลือคนไข้ นักกิจกรรมบำบัด นักกายภาพบำบัด นักจิตบำบัด หรือสหสาขาอื่นๆ อีกมากมาย ในอัตราส่วนระหว่างบุคลากรต่อคนไข้ที่มากเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิดและอบอุ่น ด้วความมุ่งหวังที่จะช่วยให้คนไข้มีความพึงพอใจในชีวิตมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมีสนนราคาค่าห้องพักระหว่าง โดยราคาของห้องพักนั้นอยู่ที่เดือนละ 80,000– 220,000 บาท
แม้โรงพยาบาลคูนแห่งแรกจะเพิ่งเปิดให้บริการ แต่กลุ่ม EKH มีแผนจะเปิดโรงพยาบาลในลักษณะนี้เพิ่มเติมล่วงหน้าแล้ว เพราะเล็งเห็นว่า สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทางผู้บริหารคาดว่า จะมีผลขาดทุนสุทธิในปีแรกของการดำเนินงาน ก่อนจะเริ่มรายงานกำไรสุทธิได้ในปีที่ 2 เมื่อตั้งสมมติฐานว่า โรงพยาบาลมีอัตราการครองเตียงที่ 50-60% จะคาดการณ์รายได้ในระดับคุ้มทุนราว 70-80 ล้านบาท จากเงินลงทุนรวมที่ 160 ล้านบาท
สำหรับความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวก เพราะเชื่อมั่นว่า กระแสตอบรับใช้บริการโรงพยาบาลคูนจะพัฒนาการดีขึ้นเป็นลำดับ เช่นเดียวกับธุรกิจโรงพยาบาลของ EKH ที่น่าจะสดใสได้อย่างต่อเนื่อง
กสิกรไทย (KS) บอกว่า ประทับใจกับโรงพยาบาลคูน ซึ่งมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในระยะสั้นได้ ทำให้มีผลกระทบจำกัดต่อกำไรสุทธิของ EKH ใน 2 ปีนี้ โดยประเมินว่า โรงพยาบาลคูนจะรายงานผลขาดทุนสุทธิปีนี้และปีหน้า ที่ 6 ล้านบาท และ 3 ล้านบาท ตามลำดับ ก่อนจะพลิกกลับมาเป็นกำไรที่ 7 ล้านบาท ในปี 2567 คิดเป็นสัดส่วน 3% ของกำไรสุทธิรวมทั้งปี
ขณะเดียวกัน การที่โครงสร้างรายได้ของ EKH พึ่งพิงผู้ป่วยจากจีน โดยเฉพาะศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก (IVF) ในสัดส่วนที่สูง ทำให้แนวโน้มรายได้และกำไรในช่วงที่เหลือของปีนี้ น่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีนมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ น่าจะทำกำไรปีนี้ได้ 213 ล้านบาท ก่อนขยายตัวเป็น 218 ล้านบาท ในปีหน้า คิดเป็นมูลค่าพื้นฐานปีหน้า 8.40 บาท
ส่วนดาโอ (DAOL) คงประมาณกำไรสุทธิปีนี้ที่ 186 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 46% (YoY) เพราะโรงพยาบาลคูนจะยังไม่สามารถทำรายได้ที่เป็นนัยสำคัญต่อ EKH ได้ในปีนี้ หรือปีหน้า เนื่องจากโรงพยาบาลยังไม่เป็นที่รู้จักต่อผู้ป่วย และมีราคาค่อนข้างสูง จึงต้องใช้เวลาในการทำการตลาด และ educate ผู้ป่วยว่า palliative care คืออะไร
อย่างไรก็ตาม หากโรงพยาบาลคูนสามารถเปิดให้บริการแบบเต็มระบบ จะสามารถเพิ่มรายได้ให้ EKH เฉลี่ยปีละ 20 ล้านบาท แต่แนะนำแค่ “ถือ” เนื่องจากผู้ป่วยทั่วไปฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนไข้เด็ก ส่วนธุรกิจ IVF เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังไม่กลับมาเต็มที่เท่าช่วงก่อนโควิด ทำให้ประเมินราคาเป้าหมายได้ที่ 8 บาท