2205 จำนวนผู้เข้าชม |
การที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เห็นชอบร่างเพดานสินเชื่อเช่าซื้อฉบับใหม่แล้ว โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ไม่เกิน 10% ต่อปี (ปัจจุบันกลุ่ม bank เก็บที่ 3 –4% และ non-bank เก็บที่ 9.0%) รถยนต์ใช้แล้วไม่เกิน 15% ต่อปี (ปัจจุบันเก็บที่ 6 –9%) และรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% ต่อปี (ปัจจุบันเก็บที่ 32 –36% ต่อปี) มีผลต้นปีหน้าทันที
ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส (ASPS) ประเมินว่า ประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เป็นหลัก ได้แก่ TK S11 และ NCAP ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มจำนำทะเบียน คือ SAWAD จะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ทางบริษัทฯ ได้เตรียมกลยุทธ์รับมือกับประเด็นดังกล่าวไว้ล่วงหน้าแล้ว อย่างไรก็ดี จากการทำ Sensitivity หาก Yields ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของ SAWAD ปรับลดลงมาที่ 23% โดยสมมติฐานอื่นไม่เปลี่ยนแปลง จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิปีหน้าของ SAWAD ราว 14% จากปัจจุบัน ส่วน MTC และ TIDLOR คาดจะได้รับผลกระทบจำกัด
ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มเช่าซื้อ "เท่าตลาด" โดยแนะนำซื้อ ASK (FV@B43) และ TIDLOR (FV@B42) ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว และคาดกำไรสุทธิปี 2565-66 จะเติบโตต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับทรีนี้ตี้ (TNITY) ที่บอกว่า การออกเกณฑ์คุมสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ ถือเป็นการตัดคู่แข่งนอกตลาดที่กินส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 40% แต่คาดว่าในระยะสั้น จะส่งผลกระทบต่อหุ้น SAWAD เนื่องจากมีพอร์ตเช่าซื้อรถจักรยานยนต์สูงถึง 23% และคิดดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อเฉลี่ยราว 30% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้บริหารได้เตรียนแผนรับมือไว้แล้ว สำหรับ MTC จะได้รับผลกระทบจำกัด เนื่องจากพอร์ตเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มีสัดส่วนประมาณ 5% ขณะที่ TIDLOR ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเน้นการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนที่มีหลักประกันเป็นรายได้หลัก จึงแนะนำ "ซื้อ" TIDLOR ที่ไม่ได้รับผลกระทบและราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่ 39 บาท
ขณะที่ดาโอ (DAOL) บอกว่า หากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อเป็นไปตามร่างประกาศข้างต้นจะส่งผลกระทบอย่างเด่นชัดต่อกลุ่มผู้ประกอบการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ (NCAP, S11, TK, SCAP, SAWAD, MTC และ TISCO) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็น 23% จากที่เก็บเดิมในอัตรา 32-36%
โดยผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ SAWAD และ MTC เพราะมีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ แต่ SAWAD จะได้รับผลกระทบมากกว่า MTC จากอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อใหม่ที่สูงกว่าเกณฑ์ใหม่ที่ตีกรอบไว้ 23% เพราะปัจจุบัน SAWAD และ MTC คิดดอกเบี้ยที่ 33-36% และ 22-23% ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ อ้างอิงจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา SAWAD มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อสูงถึง 31% ของสินเชื่อรวม ส่วน MTC มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อเพียง 5% ส่งผลให้มี downside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปีหน้า สำหรับ SAWAD และ MTC ที่ -3.0% และ -1.0% ต่ออัตราผลตอบแทน (Loan Yield) จากสินเชื่อเช่าซื้อที่ลดลงทุกๆ 1%
สำหรับ TIDLOR, SINGER, THANI, AEONTS และ KTC จะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัย เนื่องจากลูกหนี้ส่วนใหญ่ของ SINGER และ THANI เป็นสินเชื่อเช่าซื้อกลุ่มพาณิชย์ (Commercial) ที่ไม่อยู่ในกลุ่มที่ควบคุม ส่วน AEONTS จะกระทบเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ในประเทศที่มีสัดส่วนสินเชื่ออยู่ 3% ของสินเชื่อรวม และคิดดอกเบี้ย 12% ขณะที่ KTC แม้จะมีสินเชื่อเช่าซื้อที่โอนย้ายมาจาก KTBL แต่คิดดอกเบี้ยต่ำ และปัจจุบันยังไม่มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อใหม่เพิ่มขึ้น
ดังนั้น จึงเลือก SINGER (FV@ 52 บาท) เป็น Top pick กลุ่มไฟแนนซ์ เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น จากฐานทุนที่สูง
สำหรับกลุ่มธนาคารมีผลกระทบจำกัด เพราะคิด loan yield ที่ต่ำอยู่แล้ว โดยปัจจุบันทุกธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย effective rate ในสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถยนต์ใหม่ที่ 6-10% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าเพดานใหม่ที่กำหนดไว้ที่ 15% ต่อปี ส่วนรถยนต์มือสองอยู่ที่ 12-16% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าเพดานใหม่ที่ 20% ต่อปี แต่จะกระทบเล็กน้อยต่อสินเชื่อรถมอเตอร์ไซด์ ที่ปัจจุบันคิดดอกเบี้ยที่ 30% ซึ่งมากกว่าเพดานใหม่ที่กำหนดที่ 20% และมีเพียง TISCO ธนาคารเดียวที่จะได้รับผลกระทบแต่จำกัด เพราะมีสัดส่วนสินเชื่อเพียง 1% ของสินเชื่อรวม ส่วนประเด็นอื่นๆ ก็ได้มีการทำตามระเบียบอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีผลต่อกลุ่มธนาคาร
ดังนั้น จึงคงน้ำหนักการลงทุนเป็น "มากกว่าตลาด" ขณะที่ปัจจุบัน Valuation ยังถูกที่ -1.0SD below 10-yr average P/BV หรือที่ระดับ 0.70 เท่า P/BV และเลือก KBANK (FV@190 บาท) กับ KTB (FV@ 18 บาท) เป็น Top pick
ขณะที่กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) สรุปประเด็นว่า มีผลกระทบต่อกลุ่มไฟแนนซ์บางราย สรุปได้ดังนี้
1. ได้รับผลกระทบเชิงลบโดยตรง: TK, S11 และ SAWAD (สินเชื่อรถจักรยานยนต์คิดเป็น 15% ของสินเชื่อรวม)
2. ได้รับผลกระทบเชิงลบจำกัด: MTC (สัดส่วนสินเชื่อรถจักรยานยนต์ 6%) MICRO (สัดส่วนสินเชื่อรถจักรยานยนต์ 2%)
3. ไม่ได้รับผลกระทบ: KKP TTB TISCO เนื่องจากกำหนดเพดานสินเชื่อดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่ และรถยนต์มือสองต่ำกว่าเกณฑ์ (6-10% เทียบกับเพดานที่ 15% สำหรับรถยนต์ใหม่ และ 10-16% เทียบกับเพดานที่ 20% สำหรับรถยนต์มือสอง) เช่นเดียวกับ TIDLOR และ SINGER ที่ไม่มีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักยานยนต์