KBank Private Banking และพันธมิตร Lombard Odier แนะเพิ่มมูลค่าให้พอร์ตลงทุน ด้วย Theme ความยั่งยืนในมุมใหม่ที่มุ่งสู่ Net Zero

2131 จำนวนผู้เข้าชม  | 

KBank Private Banking และพันธมิตร Lombard Odier แนะเพิ่มมูลค่าให้พอร์ตลงทุน ด้วย Theme ความยั่งยืนในมุมใหม่ที่มุ่งสู่ Net Zero

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Executive Chairman, Private Banking Group บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) บอกว่า การบริหารพอร์ตลงทุนด้วยการลงทุนในธุรกิจที่ปรับตัวเข้ากับเศรษฐกิจที่มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) จะมีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือพูดง่ายๆ ว่า การลงทุนเพื่อเปลี่ยนโลกกำลังจะกลายเป็นการสร้างทางรอดให้กับพอร์ตการลงทุนในอนาคต และสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในระยะยาว ดูได้จากผลตอบแทนของกองทุนเพื่อความยั่งยืนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มีผลดำเนินงานเหนือกว่าดัชนีชี้วัด

อย่างไรก็ตาม การที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบเศรษฐกิจที่มีแนวทางการผลิตและบริโภคที่สร้างความเสียหายแก่โลก สู่ระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น (CLIC Economy) ซึ่งหมายถึง เศรษฐกิจที่มีการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน (Circular) ใช้ทรัพยากรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและไม่ผลิตของเสียในกระบวนการ (Lean)  มีความเท่าเทียมและคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของคนทุกกลุ่ม (Inclusive) และไม่ส่งผลกระทบหรือทำลายสิ่งแวดล้อม (Clean) การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญของนักลงทุนที่จะเริ่มต้นบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ด้วย  3 ขั้นตอน คือ 

- ปรับแนวคิดในการลงทุนมุ่งสู่ Net Zero และมองความยั่งยืนในฐานะแหล่งที่มาของผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว 
- พิจารณาพอร์ตการลงทุนว่า มีสัดส่วนการลงทุนหรือกลไกด้านความยั่งยืนที่ชัดเจนหรือไม่ และที่ปรึกษาการลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด
- เสริมพอร์ตให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยการลงทุนในกองทุนเปลี่ยนโลกที่สนับสนุนธุรกิจผู้ชนะโดยตรง 

ขณะที่นายแม็กซีม เพอเคอ Head of Sustainable Investment, Lombard Odier Investment Managers กล่าวเสริมว่า การบริหารพอร์ตลงทุนบนกรอบแนวคิด ESG อาจไม่เพียงพอที่จะเฟ้นหาธุรกิจที่จะเป็นผู้ชนะได้อีกต่อไป เนื่องจากมาตรวัด ESG คำนึงถึงบทบาทของบริษัทในฐานะพลเมืองของสังคม (Corporate Citizenship) เช่น การปฎิบัติต่อพนักงาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และชุมชนท้องถิ่น แต่การลงทุนเพื่อความยั่งยืนจำเป็นต้องใช้เกณฑ์ในการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในอนาคต (Forward-looking Metrics) เพิ่มเติมเข้ามา หรือความยั่งยืนในมุมใหม่ที่มุ่งสู่ Net Zero ทำให้ต้องให้ความสำคัญกับโมเดลธุรกิจ (Business Model) ของบริษัทที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต ควบคู่ไปกับแนวปฏิบัติ (Business Practice) ของบริษัทในปัจจุบัน

และหนึ่งในธีมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนที่ Lombard Odier ให้ความสำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Transition) ซึ่งมีธุรกิจเป้าหมายแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

Solution Providers – กลุ่มธุรกิจที่นำเสนอแนวทางและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น TSMC ผู้ผลิตชิปที่ล้ำสมัยที่สุด ซึ่งกำลังขยายกำลังการผลิตชิปสำหรับรถยนต์ประเภท EV/HEV และตั้งเป้าที่จะใช้พลังงานทดแทนสำหรับฐานการผลิตทั้งหมดในปี 2573

Transition Candidates – กลุ่มธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต หรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero เช่น Cummins ผู้ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายระบบส่งกำลังและเครื่องยนต์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ริเริ่มและเป็นผู้นำการผลิตระบบส่งกำลังพลังงานไฮโดรเจนในรถไฟ ซึ่งสำเร็จไปแล้ว 2 ขบวนแรกในโลก และมีแผนจะเพิ่มอีก 40 ขบวนทั่วโลก

Adaptation Opportunities – กลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และกระบวนการปรับธุรกิจเพื่อเข้ามุ่งสู่ Net Zero เช่น American Water บริษัทบริหารจัดการน้ำและบำบัดน้ำเสียที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งได้รับประโยชน์จากโครงการขจัดสารปนเปื้อนและฟื้นฟูแหล่งน้ำ รวมถึงการวางระบบการป้องกันน้ำท่วมอีกด้วย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้