ORI โกยยอดขาย 9 เดือนปีนี้ 2.9 หมื่นล้านบาท คาดทั้งปีสร้าง All Time High ใหม่ จากแผนเปิดตัว 13 โครงการส่งท้ายปีเพิ่ม

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทสามารถทำยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมรวมแล้วกว่า 29,398 ล้านบาท คิดเป็น 84% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่  35,000 ล้านบาท และเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 28% โดยยอดขายมาจากบ้านจัดสรร 27% และคอนโดมิเนียม 73% และหากแบ่งตามสถานะโครงการ ยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) มีสัดส่วน 48% และโครงการที่เพิ่งเปิดขาย หรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (On Construction) มีสัดส่วน 52%  

"สถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง ช่วยให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน โครงการใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ ซึ่งมีทำเลที่ตั้งติดแนวรถไฟฟ้า รวมถึงใกล้แหล่งงาน สถาบันการศึกษา ชุมชนที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ EEC ได้รับการพัฒนาคอนเซ็ปต์มาให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของ Gen Y และ Gen Z ยุคใหม่อย่างเต็มที่ เมื่อประกอบกับการเดินหน้าจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องในกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ เช่น แคมเปญภารกิจปิดดีลเดือด ส่งผลให้ บริษัทฯ มียอดขายที่แข็งแกร่ง ทั้งจากโครงการใหม่ และโครงการพร้อมอยู่ เฉพาะไตรมาส 3 ปีนี้ สามารถทำยอดขายได้ถึง 11,626 ล้านบาท สร้างสถิติ New High รายไตรมาสนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ขึ้นมา" นายพีระพงศ์ กล่าว  

สำหรับแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับดีมากในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ คือ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) แบรนด์คอนโดมิเนียมที่เจาะตลาดกลุ่มคนเพิ่งเริ่มต้นทำงาน และกลุ่ม Gen Z กับบริกซ์ตัน (Brixton) แบรนด์คอนโดมิเนียมที่เน้นเจาะเฉพาะกลุ่มในราคาเข้าถึงได้ นอกจากนี้ การสร้างจุดขายให้โดนใจผู้บริโภค อย่างคอนเซ็ปต์ Pet Lover Condo ช่วยให้หลายโครงการภายใต้ 2 แบรนด์ดังกล่าวที่เปิดขายเมื่อต้นปี มียอดขายสะสม (Take up rate) มากกว่า 80% 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังสามารถปิดการขายโครงการที่เพิ่งเปิดใหม่ปีนี้ได้หมดถึง 2 โครงการ ภายในครึ่งปีแรก คือ โครงการโซ ออริจิ้น เกษตร (So Origin Kaset) และโครงการ บริกซ์ตัน แคมปัส บางแสน (Brixton Campus Bangsaen) สะท้อนถึงความสำเร็จของการเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับ Gen Y และ Gen Z ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทำให้บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นที่จะต่อยอดความสำเร็จกับแบรนด์ระดับลักชัวรี อย่างพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ มากขึ้น 

โอกาสนี้ นายพีระพงศ์ กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ด้วยว่า น่าจะเห็นการฟื้นตัวเข้าสู่สถานะไฮซีซั่นที่ใกล้เคียงช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิดมากที่สุดในรอบหลายปี โดยคาดว่าจะเห็นการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมาก และมีการแข่งขันทำการตลาดสูง  เนื่องจากต้นทุนการพัฒนาโครงการยังไม่ปรับขึ้นมากนัก ขณะที่กำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว และยังไดแรงจูงใจจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยยังไม่ปรับขึ้น ช่วยเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภค 

ซึ่ง ORI เองพร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่ารวม 14,950 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 8,600 ล้านบาท และบ้านจัดสรร 6 โครงการ มูลค่า 6,350 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่า โครงการเหล่านี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จนทำให้ยอดขายรวมทั้งปีของบริษัทฯ ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัตการณ์รอบใหม่ (All Time High) ได้อีกครั้ง