ITNS เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 3.89 บาท เปิดจอง 12, 17-18 ตค. ก่อนเข้าซื้อขายวันแรกในตลาด mai  25 ต.ค.

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ ด้านตลาดทุน บมจ. หลักทรัพย์ ดาโอ ประเทศไทย (DAOL) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม (ITNS) เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 31.82% ของจํานวนหุ้นสามัญที่ออกและชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ และยังมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Greenshoe) อีก 10 ล้านหุ้น รองรับ ที่ราคาพาร์ 1 บาท ในราคาหุ้นละ 3.89 บาท ระหว่างวันที่ 12 และ 17-18 ตุลาคมนี้ ผ่านบริษัทฯ และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 3 ราย คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ (AWS) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBX) และ บมจ. หลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด (KFS) โดยคาดว่า จะสามารถเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี วันที่ 25 ตุลาคมนี้

สำหรับเหตุผลที่ตั้งราคา IPO ที่ 3.89 บาท พิจารณาจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมปีที่แล้ว ถึงวันที่ 30 มิถุนายนปีนี้) ซึ่งอยู่ที่ 43.44 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว 220 ล้านหุ้นภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.1975 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E ประมาณ 19.74 เท่า ซึ่งต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อพิจารณาจากงานโครงการในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ยังไม่ได้ส่งมอบ 523 ล้านบาท และมีนัยยะต่อผลดำเนินงาน จึงเปรียบเทียบกับธุรกิจที่คล้ายคลึงกันในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่าง บมจ. เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น (TPS ) ที่ซื้อขายบริเวณ P/E 22 เท่า ทำให้สมควรให้พรีเมี่ยมเพิ่มอีกเล็กน้อย และได้ราคาที่สมเหตุสมผล

โอกาสนี้ นายสมชาย อ่วมกระทุ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITNS กล่าวเสริมว่า การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจที่แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งจากชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักมากขึ้น และฐานะทางการเงินที่มั่นคง เพิ่มการยอมรับจากคู่ค้าทั้งภาครัฐและเอกชนได้กว้างขวางมากขึ้น ที่สำคัญ เงินทุนที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ราว 254 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจที่สูงขึ้น เพราะบริษัทฯ มีแผนนำเงินไปใช้ลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ ราว 40 ล้านบาท และใช้ขยายธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อีก 60 ล้านบาท ที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ตามแผนงาน 3 ปีนี้

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลรายได้รวมของธุรกิจออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร (System Integrator – SI) ในประเทศที่ได้รับ Gold Certified Partner จาก Cisco พบว่า มีมูลค่าประมาณ 43,245 ล้านบาท ขณะที่ ITNS มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 0.86% ของกลุ่มเท่านั้น ทำให้เห็นได้ว่า บริษัทฯ ยังมีโอกาสและช่องทางสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อีกมาก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต

สำหรับผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (2562–2564) บริษัทฯ มีรายได้รวม 282.63 ล้านบาท 375.39 ล้านบาท 370.95 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 21.25 ล้านบาท 28.83 ล้านบาท และ 32.59 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของกำไรมีสาเหตุหลักจากรายได้ที่เติบโตสูงขึ้น ประกอบกับสามารถควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันให้กำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น ส่วนผลดำเนินงานงวดครึ่งแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 176.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 22.23 ล้านบาท