DTAC กลายเป็น Top pick หุ้นกลุ่มมือถือ ได้ประโยชน์ควบรวมกิจการสูงสุด

2400 จำนวนผู้เข้าชม  | 

DTAC กลายเป็น Top pick หุ้นกลุ่มมือถือ ได้ประโยชน์ควบรวมกิจการสูงสุด

หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงมติด้วยคะแนนเสียง 3:2 ว่า ไม่มีอำนาจในการอนุมัติหรือไม่อนุมัติข้อตกลงในการควบรวมกิจการระหว่าง บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ดังนั้น จึงรับทราบข้อตกลงในการควบรวมกิจการ แต่เพื่อคลายความกังวลของประชาชน ได้มีการออก 5 มาตรการเพิ่มเติม

- กำหนดเพดานราคาของอัตราค่าบริการเฉลี่ยลดลง 12% โดยใช้วิธีการเฉลี่ยราคาใหม่ ด้วยการถ่วงน้ำหนักตามจำนวนผู้ใช้บริการในแต่ละรายการส่งเสริมการขายภายใน 90 วันหลังจากมีการควบรวมกิจการ รวมถึงกำหนดราคาที่แยกรายบริการเพื่อให้เป็นทางเลือก รวมถึงจำกัดการรวมแบรนด์ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อลดข้อกังวลเรื่องอัตราค่าบริการและสัญญาการให้บริการ

- กำหนดให้ทั้ง 2 บริษัท ต้องแบ่ง capacity การใช้บริการจากคลื่นความถี่ทุกย่าน อย่างน้อย 20% ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนโครงข่ายเสมือน (MVNO) เพื่อรองรับผู้ประกอบการ MVNO รายย่อย เพื่อลดข้อกังวลเรื่องอุปสรรคการเข้าสู่ตลาด และการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย 

- กำหนดให้ทั้ง 2 บริษัท ต้องไม่ลดจำนวนระบบสื่อสัญญาณและต้องจัดให้มีโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อการประกอบกิจการด้วยเทคโนโลยี 5G ครอบคลุมไม่น้อยกว่า 85% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศภายใน 3 ปี และ 90% ของประชากรทั้งหมดของประเทศภายใน 5 ปี นับจากวันที่รวมธุรกิจ เพื่อลดข้อกังวลเรื่องคุณภาพการให้บริการ

- กำหนดให้ทั้ง 2 บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับใช้งานคลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมอย่างเคร่งครัด และจะต้องให้ผู้รับใบอนุญาตรายอื่นเช่าใช้โครงข่ายโทรคมนาคมของตนเองในการประกอบกิจการได้ด้วย เพื่อลดข้อกังวลเรื่องการถือครองคลื่นความถี่ การใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน

- กำหนดให้ทั้ง 2 บริษัทต้องจัดให้มีรายการส่งเสริมการขายในราคาต่ำเป็นพิเศษ สำหรับผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดยต้องประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบอย่างทั่วถึง และเสนอแผนการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นรูปธรรมภายใน 60 วัน หลังจากได้รับแจ้งเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะ และเริ่มดำเนินการตามแผนภายใน 1 ปี เพื่อลดข้อกังวลทางด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรมและความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล 

สำหรับขั้นตอนต่อไป ตลาดคาดหมายว่า กสทช. จะเชิญทั้ง DTAC และ TRUE เข้าไปเจรจาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดในเชิงลึกของมาตรการต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน จากนั้น TRUE และ DTAC สามารถเริ่มต้นกระบวนการทำคำเสนอซื้อโดยสมัครใจ (VTO) ซึ่งจะมีการชี้แจงราคา VTO สุดท้าย และระยะเวลาในการรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน รวมถึงการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของทั้ง TRUE และ DTAC

ซึ่งหากไม่มีประเด็นตามจากคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางระงับข้อตกลงในการควบรวมกิจการ โดยสภาผู้บริโภคแห่งประเทศไทย และกลุ่มอื่นๆ ตามมา จะทำให้กระบวนการควบรวมกิจการแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยมีความเป็นไปได้ด้วยว่า อาจเห็นบริษัทใหม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนสิ้นปี

สำหรับประเด็นสงสัยเรื่องมาตรการเยียวยา ได้รับการอธิบายจากฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ดาโอ (DAOL) ว่า อยู่ที่ประเด็นการคุมราคา ของ กสทช. ซึ่งยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะมาตรการควบคุมราคาให้ลดลง 12% ซึ่งไม่ได้ระบุระยะเวลา หรือเหตุปัจจัยที่จะทำให้สามารถปรับขึ้นราคาได้ในอนาคต เพราะหากต้องลดราคาลงจากปัจจุบัน จะส่งผลกระทบต่อ ARPU ทั้งอุตสาหกรรม และทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมระยะแรก หลังการควบรวมกิจการเป็นลบ

นอกจากนี้ ยังมีคำถามตามเรื่องการแข่งขันในระหว่างช่วงควบรวมกิจการ เพราะมีความเป็นไปได้ว่า อาจเห็นการแข่งขันรุนแรงขึ้น ทั้งเพื่อแย่งชิงและรักษาฐานลูกค้า ก่อนหมด incentive หลังการควบรวมกิจการ เพราะเมื่อถึงจุดนั้น ศักยภาพการแข่งขันระหว่าง ADVANC และ TRUE กับ DTAC จะกลับมาเท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตาม บัวหลวง (BLS) ตีความประเด็นการคุมราคาว่า น่าจะออกมาในรูปของการกำหนดราคาค่าบริการขั้นสูง บวกกับการคงไว้ซึ่งอัตราค่าบริการในกรอบที่เหมาะสมในช่วงระยะเวลาหนึ่ง 

กระนั้น BLS และ DAOL ประเมินหลังราคาหุ้นตอบรับข่าวควบรวมกิจการเชิงบวกไปแล้ว มีโอกาสปรับตัวลง และแกว่งตัวแคบๆ เพื่อรอความชัดเจนในประเด็นการเปิดเผยมูลค่าการผนึกกำลังที่จะเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการ (Synergy) เพิ่มเติม ซึ่งทาง DAOL ขอรอความชัดเจนเพื่อทำการประเมินแนวโน้มกำไร และราคาเป้าหมายรอบใหม่สักระยะ

ซึ่งบัวหลวง (BLS) คิดเหมือนกับหยวนต้า (YUANTA) ว่า ราคาหุ้น TRUE และ DTAC จะกลับไปยืนเหนือราคา Tender Offer เพราะตลาดจะให้ความสำคัญกับมูลค่าเพิ่มจากการควบรวมกิจการ (Synergy) ของทั้ง 2 บริษัทก่อนจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่เกิดขึ้น พร้อมแนะนำ "เก็งกำไร" ทั้ง TRUE และ DTAC

ทั้งนี้ BLS ให้ราคาเป้าหมายปีหน้าของ TRUE ที่ 6.40 บาท ส่วน DTAC อยู่ที่ 63 บาท ขณะที่ YUANTA ยกให้ DTAC เป็น Top pick เพราะราคายังต่ำกว่า Tender Offer มากกว่า TRUE สำหรับการลงทุนระยะยาว คงแนะนำ "ซื้อ" ทั้ง DTAC (ราคาเป้าหมาย 55.75 บาท) TRUE (ราคาเป้าหมาย 6 บาท) และ ADVANC (ราคาเป้าหมาย 240 บาท)

เช่นเดียวกับกสิกรไทย (KS) ที่ชอบ DTAC และ TRUE มากกว่า ADVANC และ JAS แต่ชอบ DTAC มากกว่า TRUE จาก upside 3.8% ต่อราคา VTO บวกด้วย upside จาก Synergy ที่สูงขึ้น 13.3% หากถือไว้จนกว่าจะมีการแปลงสภาพ ที่สำคัญ เชื่อว่า ราคา VTO ของ DTAC ที่ 47.76 บาท และ TRUE ที่ 5.09 บาท จะกลายเป็นแนวรับแทนที่จะเป็นแนวต้าน โดยให้ราคาเป้าหมายปีหน้าของ DTAC ที่ 58.43 บาท และ TRUE ที่ 6.28 บาท

KS ยังให้ความเห็นด้วยว่า ความคืบหน้าของข้อตกลงควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อกิจการ TTTBB และ JASIF ของ ADVANC (ราคาเป้าหมาย 249.45 บาท)ถึงแม้จะไม่มีส่วนลดค่าเช่าก็ตาม และทำให้ภาพรวมธุรกิจมือถือไทยก้าวเดินไปสู่การรวมตลาดต่อไป

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้