DAOL แนะเลี่ยงหุ้นที่มีรายได้พึ่งพิงเศรษฐกิจจีนมาก

2574 จำนวนผู้เข้าชม  | 

DAOL แนะเลี่ยงหุ้นที่มีรายได้พึ่งพิงเศรษฐกิจจีนมาก

การที่ทางการจีนประกาศเดินหน้ามาตรการ Zero Covid ต่อเนื่อง โดยไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่พร้อมดำเนินมาตรการเพื่อจัดระเบียบอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่แนวทางทุนนิยมเหมือนสากล เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว (Common Prosperity) รับการต่อวาระของประธานาธิบดิ สี จิ้น ผิง ออกไปอีก 5 ปี ถือเป็นแรงกดดันที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนและตลาดฮ่องกงทรุดตัวทำสถิติต่ำสุดใหม่ ขณะที่หุ้นไทยผันผวนเป็นรายวัน ในสัปดาห์ส่งท้ายเดือนตุลาคม ส่งผลให้ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ดาโอ (DAOL) ออกงานวิจัย เตือนให้ระมัดระวังการลงทุนหุ้นที่มีรายได้พึ่งพิงเศรษฐกิจจีนมาก เพราะอาจได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าเดิม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมดังต่อไปนี้

กลุ่มโลจิสติกส์ (WICE, LEO, III) และเดินเรือ (RCL, PSL, TTA) จะได้รับผลกระทบจากความต้องการขนส่งสินค้าที่ลดลง ส่งผลให้ปริมาณขนส่งสินค้าฟื้นตัวช้า และดัชนีค่าระวางเรือที่ยังชะลอตัว โดยประเมิน WICE (ซื้อ/เป้า 15.00 บาท) จะได้รับผลกระทบมากที่สุด จากการมีสัดส่วนรายได้จากเส้นทางจีนราว 20%

กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ (HANA, KCE) ได้รับผลกระทบจากสัดส่วนการขายไปยังลูกค้าในจีนที่อาจชะลอตัวลง โดย HANA (ถือ/เป้า 47.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าในจีนสูงถึง 20% และ KCE (ถือ/เป้า 58.00 บาท) อยู่ที่ 11% ของยอดขายรวม

กลุ่มพลังงาน (SPRC, TOP, BCP, ESSO) จะได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวของอุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่ช้าลง อีกทั้งมีแรงกดดันที่เป็นไปได้จากการที่จีนจะยังคงโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปในระดับที่สูง

กลุ่มปิโตรเคมี (PTTGC, IRPC, SCC) จะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ยังคงอ่อนแอ เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าสุทธิผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ อีกทั้งอัตราการใช้กำลังการผลิตก็มีแนวโน้มทรงตัวต่ำจากอุปทานใหม่ที่เข้ามา

กลุ่มบรรจุภัณฑ์ (SCGP) มีสัดส่วนรายได้จากจีนราว 7-8% ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวอาจสร้างปัญหา Oversupply ฉุดให้ราคาขายอ่อนตัวตามมา

ซึ่งเมื่อประเมินจากอุตสาหกรรมเหล่านี้ DAOL ประเมินว่า หุ้นที่จะได้รับผลกระทบเชิงลบมากสุด คือ WICE และ HANA

พร้อมกันนั้น DAOL ได้แนะนำทางเลือกในการลงทุนลดความเสี่ยงจากหุ้นที่สัดส่วนรายได้พึ่งพิงเศรษฐกิจจีนมาก ด้วยการหันมาลงทุนหุ้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรดี และหุ้นในกลุ่มยังมีความน่าสนใจแทน เช่น หุ้นกลุ่มธนาคาร KTB (ซื้อ/เป้า 20 บาท) กับ BBL (ซื้อ/เป้า 170 บาท) และรับเหมาก่อสร้าง อย่าง CK (ซื้อ/เป้า 25.40 บาท )

รวมถึงหุ้นที่แนวโน้มการเติบโตดีในครึ่งปีหลัง ถึงแม้จะมีการเติบโตในไตรมาส 3 ลดลงจากไตรมาส 2 (QoQ) อย่างหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่ประเมินว่า ธุรกิจบ้าน และคอนโดมีเนียม ซึ่งมีแรงหนุนจากการเปิดโครงการใหม่ และยอดโอนที่ดี ในไตรมาสสุดท้ายของปี เน้นไปที่ SPALI (ซื้อ/เป้า 24.50 บาท) หรือกลุ่มค้าปลีก ซึ่งยอดขายเฉลี่ยต่อสาขา (Same Store Sale Growth - SSSG) มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการเปิดเมืองเพิ่มขึ้น ได้แก่ SNNP (ซื้อ/เป้า 27 บาท)

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้