SGC เตรียมขาย IPO รายย่อย 246 ล้านหุ้น หลังจัดสรรให้ผู้ถือหุ้น SINGER รวม 574 ล้านหุ้น

2601 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SGC เตรียมขาย IPO รายย่อย 246 ล้านหุ้น หลังจัดสรรให้ผู้ถือหุ้น SINGER รวม 574 ล้านหุ้น

 
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนของ SGC แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้พร้อมเดินหน้าแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 820 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.08% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ แบ่งเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 574 ล้านหุ้น (คิดเป็นประมาณ 70% ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายทั้งหมด) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยให้ Pre-emptive Right ในอัตราส่วน 1.4326 หุ้นสามัญ ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SGC ในราคา IPO ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับราคาเสนอขาย ระยะเวลา และวิธีจองซื้อหุ้น รวมถึงความคืบหน้าต่างๆ ต่อไป

ส่วนนายธีร์ จารุศร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ประเทศไทย (MST) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม ชี้แจงว่า SGC จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปชำระคืนเงินกู้ยืม SINGER ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (ซึ่งภายหลัง IPO จะมีสัดส่วนการถือหุ้น 74.92%) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงิน และใช้เพื่อขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้ง 4 กลุ่ม ประกอบไปด้วย สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์แบบโอนกรรมสิทธิ์เล่มทะเบียน และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (รถบรรทุก รถยนต์นั่ง ส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์) ภายใต้แบรนด์ "รถทำเงิน" สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมเครื่องใช้ในครัวเรือน (Home Appliances) และเครื่องจักร (Captive Finance) รวมถึงสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน (Debt Consolidation) และสินเชื่อผ่อนทอง (Click2Gold)

สำหรับโครงสร้างรายได้หลัก มาจากสินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักร ในสัดส่วน 59% ตามมาด้วยสินเชื่อ "รถทำเงิน" ที่มีการเติบโตโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ จนมีสัดส่วน 37% ของพอร์ตสินเชื่อรวม  

ขณะที่นางสาวบุษบา กุลศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) ชี้แจงแนวทางผลักดันการเติบโตทางธุรกิจว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในประเทศ ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบมีหลักประกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน โดยเฉพาะสินเชื่อรถบรรทุก หรือสินค้าและบริการในเครือ SINGER ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ โดยวางเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าพอร์ตสินเชื่อเพิ่มจากครี่งแรกปีนี้ ที่อยู่ที่ 13,808 ล้านบาท เป็น 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2569

สำหรับผลดำเนินงานของ SGC ในช่วงครึ่งแรกปีนี้ มีรายได้รวม 1,030.68 ล้านบาท เติบโต 18.36% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 306.91 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการเติบโตของกำไรมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อรถทำเงิน 46.57% ใกล้เคียงกับรายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักร ที่มีสัดส่วน 50.42% ขณะที่ผลดำเนินงานปีก่อน มีรายได้รวม 1,781.82 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 593.03 ล้านบาท

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้