AAI ซื้อขายวันแรกเหนือจองทั้งวัน ร้อนแรงภาคบ่าย ให้ผลตอบแทน 31-62% ขานรับเป้าผู้นำอาหารสัตว์เลี้ยงระดับสากล

2394 จำนวนผู้เข้าชม  | 

AAI ซื้อขายวันแรกเหนือจองทั้งวัน ร้อนแรงภาคบ่าย ให้ผลตอบแทน 31-62% ขานรับเป้าผู้นำอาหารสัตว์เลี้ยงระดับสากล

การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บมจ. เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI) ไม่สร้างความผิดหวังให้นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อราคาหุ้นยืนเหนือจองได้ทั้งวัน โดยหลังจากเปิดตลาดที่ 7.90 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 5.55 บาท ถึง 2.55 บาท หรือให้ผลตอบแทน 42.3% มีแรงซื้อดันราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 8.05 บาท ก่อนจะมีแรงขายทำกำไรกดราคาให้ปรับฐานลงมา แต่ก็ไม่หลุด 7.30 บาท โดยปิดภาคเช้าที่ 7.65 บาท เหนือจอง 37.8% อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดตลาดภาคบ่าย กลับมีแรงซื้อหนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดันราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดใหม่ ที่ 9 บาท ก่อนจะมีแรงขายปลายตลาด กดราคาปิดลงมาที่ 8.90 บาท สูงกว่าราคาจอง 3.35 บาท คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 60%

โอกาสนี้ นายเอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการ AAI ยืนยันว่า พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และรักษาอัตรากำไรของบริษัทฯ ในระยะยาว ทั้งการพัฒนาแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงของตนเองในหลากหลายแบรนด์ ให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกตลาดย่อย (Market Segment) และมีผลิตภัณฑ์ครบทุกประเภท ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่เป็นเจ้าของแบรนด์ จนได้รับการยอมรับ และยกระดับสถานะบริษัทฯ จาก "ผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์" (Co-developer) เป็น "คู่ค้าเชิงกลยุทธ์" (Strategic Partner) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงระดับสากล

 



โดยหากมองภาพระยะสั้น บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6,400 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 15-20% ขณะที่รายได้จากสินค้าแบรนด์ตนเองเติบโตเพิ่ม 10% ซึ่งเป็นการเติบโตตามอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง และปัจจัยฤดูกาล

ส่วนภาพระยะกลางถึงยาว บริษัทฯ มีแผนใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกในประเทศเพิ่มอีกปีละ 40,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าจากกำลังผลิตอาหารปัจจุบันที่ปีละ 42,000 ตัน ตั้งแต่ปลายปีนี้ ต่อเนื่องถึงปี 2568 พร้อมลงทุนในคลังสินค้าอัตโนมัติ (Auto Warehouse) แห่งที่ 2 ภายในปีหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสินค้าอีก 15,000 – 20,000 พาเลท ให้สามารถรองรับความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีคืนกลับผู้ถือหุ้นตามมา

 



ขณะที่นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ Head of Investment Banking Capital Market บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ (TSC) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และโอกาสเติบโตในอนาคตที่โดดเด่นจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงแล้ว การที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง ภายใต้แนวคิดว่า พร้อมดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบในทุกกระบวนการทางธุรกิจ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากแหล่งวัตถุดิบที่ไม่ขัดต่อแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability) ผ่านกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังให้ความสำคัญต่อการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปฎิบัติต่อคู่ค้าอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ตลอดจนการจัดประเมินผลคู่ค้า เพื่อพัฒนาการประกอบธุรกิจระหว่างกันอย่างยั่งยืน เพื่อให้สอดรับกับทิศทางการพัฒนาความยั่งยืนของโลก และความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นกระแสการค้าการลงทุนในโลกปัจจุบัน ทำให้โอกาสทางธุรกิจในระยะยาวเปิดกว้างมากขึ้น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้